นายสาระ ล่ำซำ อุปนายกฝ่ายการตลาด สมาคมประกันชีวิตไทย ในฐานะประธานการจัดงานพิธีมอบรางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ (TNQA) ครั้งที่ 37 ประจำปี 2563 เปิดเผยว่า สมาคมประกันชีวิตไทยขอแสดงความยินดีกับตัวแทนคุณภาพดีเด่นแห่งชาติ (TNQA) ครั้งที่ 37 โดยในครั้งนี้มีตัวแทนประกันชีวิตที่มีผลงานผ่านเกณฑ์ทั้งสิ้น 2,190 ราย จาก 17 บริษัทสมาชิก โดยรางวัลเกียรติยศสูงสุดคือตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 20 ปี จำนวน 3 ราย ได้แก่ คุณอมราพร สุทธิเลิศรัตน์ และคุณสุวรรณี แจ่มสว่าง บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และคุณณภัสภรณ์ จุใจ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 15 ปี จำนวน 9 ราย รางวัลตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 10 ปี จำนวน 45 ราย รางวัลเกียรติคุณพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 78 ราย และรางวัลเกียรติบัตรจำนวน 2,055 ราย
แม้ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังคงอยู่ด้วยมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส แต่สมาคมประกันชีวิตไทยยังคงเห็นความสำคัญของการจัดงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ตลอดจนเชิดชูเกียรติของบุคลากรฝ่ายขาย ซึ่งเป็นฟันเฟืองที่สำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจประกันชีวิตเจริญเติบโต จึงยังคงจัดงานพิธีการมอบรางวัลดังกล่าว โดยผสมผสานรูปแบบการจัดงานแบบปกติกับ New Normal ซึ่งได้รับเกียรติจากนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัด
กระทรวงการคลัง ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และนางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลพร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับตัวแทนคุณภาพดีเด่นกิตติคุณ 20 ปี , 15 ปี และ 10 ปี จำนวน 57 ราย พร้อมใช้ดิจิทัลถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในงานผ่านแพลตฟอร์มเฟสบุ๊คไลฟ์และยูทูปไลฟ์ ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดบรรยายพิเศษเสริมสร้างความรู้ในหัวข้อ “กลยุทธ์พิชิตการตลาดประกันชีวิตในยุค New Normal” จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิดร.เอกก์ ภทรธนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมด้วยมินิคอนเสิร์ต ณ ห้อง เวิลด์ บอลรูม โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ส่วนรางวัลเกียรติคุณพร้อมเกียรติบัตร จำนวน 78 ราย และรางวัลเกียรติบัตรจำนวน 2,055 ราย บริษัทต้นสังกัดจะดำเนินการมอบรางวัลต่อไป
แม้ในปัจจุบันระบบดิจิทัลจะเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจประกันชีวิตมากเพียงใด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าถึงหรือตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งหมด ธุรกิจประกันชีวิตยังจำเป็นต้องอาศัยคนกลางที่จะมาเป็นผู้อธิบายเงื่อนไข ความคุ้มครองและผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายขึ้น พร้อมคอยอำนวยความสะดวกส่งมอบการบริการที่ดี ดังนั้น “ตัวแทนประกันชีวิต” ยังคงเป็นช่องทางการขายหลักที่สำคัญของธุรกิจประกันชีวิต ที่มีผลต่อการเติบโตของภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตอยู่ โดยในปี 2562 ช่องทางตัวแทนมีผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวม 315,616.9 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนช่องทางการขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น คิดเป็นร้อยละ 51.7 จึงเป็นผลทำให้ภาคธุรกิจยังคงต้องการเพิ่มตัวแทนประกันชีวิตที่มีคุณภาพเพื่อเป็นกำลังขับเคลื่อนให้คนไทยได้วางแผนการเงินเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัวต่อไป