ปลดล็อก “ทับลาน” คืนความเป็นธรรมชาวบ้าน ยัน! ไร้การเมืองแอบแฝง

497

          ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่า ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ จะมีการปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานที่มีพื้นที่เชื่อมโยงเขตจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งจะมีผลให้รีสอร์ท  บ้านพักตากอากาศ  สวนเกษตรและผู้ที่ถูกดำเนินคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานรวมกว่า 400 คดี มีโอกาสพ้นผิดและจะได้ครอบครองที่ดิน   ขณะที่นายดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคโอกาสไทย  อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า  ที่ผ่านมาพอรู้ว่ามีความพยายามดำเนินการเรื่องนี้ โดยผ่านสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ซึ่งดูจะเร่งรีบนำเข้าสู่การพิจารณาจนผิดสังเกตุ และอาจจะมีการเมืองเข้ามาแอบแฝงนั้น

          แหล่งข่าวในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เปิดเผยว่า  เรื่องนี้ฝ่ายความมั่นคงรู้ดีว่าพื้นที่บริเวณทับลานเป็นการจัดเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้แก่ชาวบ้านที่หนีภัยคอมมิวนิสต์ (โครงการหมู่บ้านไทยสามัคคี) มีกฎหมายรองรับชัดเจนในปี 2518 และ 2521  แต่มีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับลานมาทับพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2524

           แม้ต่อมาจะมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2536 อนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจที่ เสนอขออนุมัติดำเนินการปฏิรูปที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และการพิจารณาปรับแนวเขต อุทยานแห่งชาติทับลาน ให้เป็นไปตามสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสม    และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2540 ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมป่าไม้) เร่งรัดจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่ได้ดำเนินการไว้แล้ว

          อย่างไรก็ตามกรมอุทยานฯก็ยังทำงานอย่างเชื่องช้า  ประกอบกับมีการเปลี่ยนรัฐบาล  มีการเปลี่ยนเปลี่ยนตัวผู้บริหาร  คนมาใหม่ไม่รู้รายละเอียด  จนถึงปี 2555 อธิบดีกรมอุทยานฯได้เปิดยุทธการกวาดล้างจับกุม ทุบ ทำลาย รื้อรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศในพื้นที่ทับลานครั้งใหญ่ด้วยข้อหาบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติ

          แหล่งข่าวกล่าวต่อไปว่า  คณะรัฐมนตรีมีมติให้ปรับปรุงแนวเขตอุทยานฯทับลานหลายครั้งแต่คณะกรรมการอุทยานฯไม่เร่งดำเนินการ  เหตุที่บางคนไม่อยากแก้เพราะอยากมีอำนาจครอบเอาไว้เพื่อหาผลประโยชน์  ดังเช่นการปรากฏข่าวว่ามีการเรียกรับเงินคนที่อยู่หรือนายทุนที่เข้าไปลงทุนปลูกรีสอร์ท ทำบ้านพักตากอากาศ   

          “ตอนนี้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯกลัวว่าถ้าชาวบ้านเป็นฝ่ายถูกก็จะถูกฟ้องกลับ  เลยมีการปล่อยข่าวเพื่อสร้างกระแสกลบความผิดพลาดในอดีต  ต้องการให้มีการต่อต้านการแก้ไขแนวเขตอุทยานฯ  คนทั่วไปที่ไม่รู้ที่มาที่ไปย่อมหลงเชื่อว่านักการเมืองกำลังเข้ามาแทรกแซงข้าราชการ  แต่ความจริงคือข้าราชการบางคนบางส่วนดื้อแพ่งต่อนโยบายรัฐ  ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังจะเล่นงานด้วย มาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

          แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่าเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีการประชุมที่ สคทช. โดยเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุม  ซึ่งผู้แทนกรมอุทยานฯยอมรับว่าต้องปรับปรุงแนวเขต  แต่ขอให้ช่วยเรื่องคดีความของเจ้าหน้าที่อุทยานฯหากถูกฟ้องกลับ  ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าหากปฏิบัติโดยชอบกฎหมายก็ย่อมคุ้มครอง  แต่การที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯจับชาวบ้านฟ้องเป็นคดี  แล้วบอกให้ดำเนินคดีชาวบ้านต่อไปแต่ขอให้คุ้มครองเจ้าหน้าที่ก็ถือว่าไม่ยุติธรรม  ทางออกคือให้พิสูจน์ข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

          “ช่วงที่ผ่านมามีการเปลี่ยนมือผู้ถือครองที่ดินมามาก  พวกที่เข้าไปสร้างรีสอร์ทยังไงก็ผิด  อันนั้นต้องว่าไปตามกฎหมาย  ถ้าอยู่ในเขตของกรมป่าไม้  หรือสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ก็ว่าไปตามกฎหมายนั้น  ต้องให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่อยู่มาก่อนประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน”แหล่งข่าวกล่าวในที่สุด 

          อนึ่ง สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินเคยมีคำวินิจฉัยว่า  แนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานปี 2524 ยังอยู่  แต่เมื่อปี 2543 กรมป่าไม้ได้มีการปักปันแนวเขตแล้ว  เพียงแต่ยังไม่ได้มีการดำเนินให้เรียบร้อยเนื่องจากปี 2545 มีการเปลี่ยนแปลงกระทรวง ทบวง กรม  โดยกรมอุทยานฯ กับ กรมป่าไม้ แยกไปอยู่คนละกระทรวง  งานเลยค้างมาตั้งแต่บัดนั้น  แค่ดำเนินการต่อตามแนวเขตปี 2543 จัดสรรที่ดินให้ประชาชนก็จบปัญหา  หากยังยืดเยื้อไม่เพียงผู้ที่ถูกดำเนินคดีในปัจจุบัน  แต่ยังมีอีกกว่า 3,000 ครอบครัวที่จะต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย