ประเทศจีนมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ทั้งด้านการท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน โดยนักท่องเที่ยวจีนมาไทยเป็นอันดับหนึ่งในช่วงก่อนโควิด มีจำนวน 11 ล้านคน ปีนี้คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและกลับมาท่องเที่ยวไทยไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ในด้านการค้า จีนถือเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย ที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 17 ของมูลค่าการค้ารวม ขณะที่ด้านการลงทุน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การลงทุนจากจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยในปี 2565 จีนขึ้นมาเป็นนักลงทุนอันดับหนึ่งที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 18 ของการลงทุนโดยรวม และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ จีนมีการยื่นคำขอลงทุนในไทย มูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
เมื่อเร็วๆนี้ ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ได้เดินทางไปโรดโชว์ส่งเสริมการลงทุน ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เมืองธุรกิจสำคัญ ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ หางโจว เซินเจิ้น และกว่างโจว โดยสะท้อนโอกาสทางธุรกิจว่า ทำเลที่ตั้งของประเทศไทยอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียน ใกล้ประเทศจีน มีระบบขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถเชื่อมโยงกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานและนิคมอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ ไทยยังมีความแข็งแกร่งด้านซัพพลายเชน อุตสาหกรรมสนับสนุน บุคลากรที่มีคุณภาพ มาตรการสนับสนุนของรัฐและสิทธิประโยชน์ รวมทั้งไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ จึงมีความเหมาะสมในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ที่จะเป็นฐานการผลิตของจีนเพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่กำลังเติบโตสูง รวมทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี RCEP ที่ไทยทำร่วมกับประเทศต่าง ๆ 15 ประเทศได้ด้วย
ขณะที่ บีโอไอ มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุน ทั้งการลงทุนในประเทศไทยและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและเพิ่มบทบาทของไทยในเวทีโลก โดยบีโอไอได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสนับสนุนด้านข้อมูล ให้คำปรึกษา อำนวยความสะดวก และประสานงานกับประเทศปลายทาง ผ่านสำนักงานบีโอไอในต่างประเทศ 16 แห่ง และ ในจีน 3 แห่ง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และกวางโจว
ในโอกาสครบรอบ 48 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2566 นี้ สื่อมวลชน 3 สำนักซึ่งประกอบด้วย The Leader Asia บางกอกทูเดย์ และ Creativeecon เห็นควรจัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระดังกล่าวและกระชับความสัมพันธ์สองประเทศให้มั่นคงสืบต่อไป เพื่อให้สาธารณชนได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในรอบ 48 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ส่งเสริมการสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ต่อยอดทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของสื่อมวลชน ซึ่งเป็นภาคส่วนหนึ่งในการทำหน้าที่สื่อสารข่าวสารและข้อมูล รวมถึงการชี้นำในการสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนสองฝ่าย และให้ผู้ร่วมสัมมนาได้ทราบถึงนโยบาย ทิศทางของประเทศไทยและจีน ที่จะเดินเคียงข้างกันบนเส้นทางเดียวกันสู่อนาคตอันสันติสุข
หนึ่งในไฮไลท์ของงานสัมมนาคือ การเสวนา “48 ปีไทย-จีน กับความร่วมมือพัฒนารอบด้าน” โดย นายวิบูลบ์ คูสกุล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง, นายชนินทร์ ขาวจันทร์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ ดร.ธารากร วุฒิสถิรกูร นายกสมาคมการค้าการลงทุนเส้นทางสายไหมไทย-จีน ณ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร สนใจสำรองที่นั่งด่วน..มีจำนวนจำกัด โทร 081 915 6262 หรือ e-mail : jutima_news@hotmail.com ไม่เสียค่าใช้จ่าย