นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล, สสส., มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว, สภาสมาคมสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์, สมาคมสตรีภาคพื้นแปซิฟิกและเอเชียอาคเนย์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์ปลอดภัย สังคมไทยเคารพสิทธิ”
นายอนุกูลฯ กล่าวว่า ตามที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ที่สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ โดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติจึงได้เสนอหลักการจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์ 2567” ซึ่ง ครม. มีมติเห็นชอบให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ 21 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 21 เมษายน 2567 ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว และโดยที่ทราบกันทั่วไปว่า เทศกาลสงกรานต์ของไทยเป็นเทศกาลที่เน้นความสนุกสนาน และส่วนใหญ่ในช่วงเทศกาลก็มักจะมีการสังสรรค์ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงตามมา โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนน และการทะเลาะวิวาท แต่ยังมีอีกหนึ่งปัญหาความรุนแรงที่เรามักจะมองข้าม หรือไม่คิดว่าสิ่งนั้นเป็นปัญหา นั่นคือ ปัญหาการคุกคามทางเพศ พม. และภาคีเครือข่าย จึงได้จัดการรณรงค์ครั้งนี้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความตระหนักถึงปัญหาการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ สร้างการรับรู้เกี่ยวกับการคุกคามทางเพศ ที่ไม่ว่าจะเล็กน้อยเพียงใดก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และผิดกฎหมาย สร้างความเข้าใจในเรื่องการเคารพ ให้เกียรติ ในสิทธิเนื้อตัวร่างกาย ความยินยอมพร้อมใจของผู้อื่น ไม่ฉวยโอกาสลวนลาม หรือคุกคามทางเพศ และไม่ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ เพื่อให้ทุกคนในสังคมไม่ว่าจะเด็ก สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ ต่างก็มีความปลอดภัยในทุกพื้นที่ ได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน ช่วยกันสร้างกระแสให้สังคมร่วมกันผลักดัน ร่วมกันเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบกับปัญหาความรุนแรงและปัญหาการคุกคามทางเพศ และปลูกจิตสำนึกแก่เยาวชนให้เห็นถึงโทษของแอลกอฮอล์ การลดผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในมิติต่าง ๆ
“กิจกรรมการรณรงค์ “สงกรานต์ปลอดภัย สังคมไทยเคารพสิทธิ” จะไม่จบลงเฉพาะในการจัดงานในวันนี้เท่านั้น โดย พม. และภาคีเครือข่าย ได้สนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์และแนวคิดการรณรงค์ฯ ไปยังเครือข่ายและหน่วยงานระดับจังหวัด ทั่วประเทศ เพื่อให้ช่วงเวลาของเทศกาลสงกรานต์ในทุกพื้นที่ ที่นอกจากจะสืบสานประเพณีอันดีงามแล้ว ยังเป็นเทศกาลแห่งความสุข สนุกสนาน และในช่วงเวลานี้ยังเป็นวันผู้สูงอายุกับวันครอบครัว ซึ่งเราจะใช้ช่วงเวลานี้ไปรดน้ำขอพรจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และผู้ที่เคารพนับถือ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ไทยที่มีความสุข มีความปลอดภัย ปราศจากแอลกอฮอล์ และขอชวนเชิญทุกท่านให้ร่วมตระหนักไปด้วยกันว่า ในทุก ๆ วัน ไม่เฉพาะเทศกาลนี้เท่านั้น สังคมไทยต้องปลอดภัยจากการคุกคาม ทุกพื้นที่ต้องปลอดภัยสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย เป็นสังคมที่ให้ความเคารพในสิทธิ ซึ่งกันและกัน”
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ข้อมูลว่า ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) รายงานสถานการณ์สงกรานต์ ปี 2566 พบว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 264 คน ลดลง 14 คน จากปี 2565 ที่มีผู้เสียชีวิต 278 คน ส่วนการดื่มแล้วขับที่เป็นเหตุให้เสียชีวิตลดจาก 16.5% ในปี 2565 เหลือ 10.6% ในปี 2566 สอดคล้องกับจำนวนผู้เสียชีวิตคาที่ลดลงจาก 56.8% ในปี 2565 เหลือ 53.4% ในปี 2566 ส่วนใหญ่มาจากการขับรถเร็วที่มีการชนรุนแรงจนทำให้เสียชีวิตในทันที นอกจากนี้ข้อมูลการจากการเก็บข้อมูลของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ในช่วงสงกรานต์ปีที่ผ่านมาพบปัญหาส่วนใหญ่ คือ ถูกประแป้งที่ใบหน้าหรือร่างกาย ถูกแซว/ผิวปากหรือใช้สายตาจ้องมองทำให้อึดอัด เคยถูกฉวยโอกาสลวนลาม เกิดอุบัติเหตุ ถูกก่อกวนจากคนเมาหรือถูกบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทะเลาะกันในครอบครัว
“สงกรานต์ปีนี้ สสส. จึงเน้นย้ำเรื่องการจัดพื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า ป้องกันลดอุบัติเหตุ ความรุนแรง มีสติ มีขอบเขตและการเคารพสิทธิ ปัจจุบันมีพื้นที่เข้าร่วมกว่า 100 พื้นที่ ถนนตระกูลข้าวปลอดเหล้ากว่า 60 แห่ง โดยขอฝากทุกคนว่า “ดื่มไม่ขับ ดื่มเหล้า เมาถึงสมอง” เพราะร่างกายเรามีร่างเดียว เปลี่ยนไม่ได้ ต้องดูแลให้ดีเพื่อให้ใช้ได้ยาวนาน จนถึงวัยชรา จึงอยากเชิญชวนให้ ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดการทำลายสมอง”
ดร.ณัฐพล แย้มฉิม ประธานสวนดุสิตโพล เปิดเผยข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนต่อเทศกาลสงกรานต์ 2567 ระหว่างวันที่ 26-29 มีนาคม 2567 โดยสำรวจจากประชาชนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จำนวน 4,011 คน พบว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ร้อยละ 66.09 ไม่เล่นน้ำสงกรานต์ เพราะต้องการพักผ่อน อากาศร้อน มีร้อยละ 14.19 ที่ไม่เล่นเพราะกลัวถูกลวนลาม (บางส่วนเคยถูกลวนลาม) กลุ่มที่เคยเล่นสงกราน์ส่วนใหญ่เคยเจอสถานการณ์ถูกประแป้งที่ใบหน้า ร้อยละ 57.79 ถูกฉวยโอกาสแต๊ะอั๋ง/ลวนลาม ร้อยละ 32.43 และเด็กกลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปี เคยถูกประแป้งที่ใบหน้ามากที่สุด ร้อยละ 76.77