ปี 2566 ธุรกิจประกันวินาศภัยมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ตามปัจจัยบวกจากการรับประกันภัยรถที่มีสัดส่วนเบี้ยสูง
แรงสะเทือนจากการรับประกันโควิด 19 ยังไม่สิ้นสุด แม้ว่ากรมธรรม์เจอจ่ายจบสิ้นสุดลงพร้อมด้วยการปิดตัวลงของบริษัทประกันภัย 4 แห่ง และอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ 1 แห่ง เนื่องจากยังมีภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกันที่ค้างจ่ายอีกกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นภาระผูกพันที่ส่งต่อให้กับกองทุนประกันวินาศภัยและคงต้องใช้เวลาในการดูดซับความเสียหายที่เกิดขึ้น อันเป็นบทเรียนสำหรับการรับประกันความเสี่ยงใหม่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและมีกรอบกติกาที่รัดกุม
ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2566 จากมิติของเบี้ยประกันภัยรับตรง มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ด้วยปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประกอบกับการแข่งขันด้านราคาลดลง ทั้งจากจำนวนบริษัทประกันลดลง และต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนการเอาประกันภัยต่อที่สูงขึ้น โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เบี้ยรับรวมของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2566 จะเติบโตได้ต่อเนื่องที่ 4-5%
ประเภทการประกันภัย | 2562 | 2563 | 2564 | 2565 | 2566f |
1. การประกันอัคคีภัย | 10,118 | 10,167 | 10,355 | 9,868 | 10,000 |
% เปลี่ยนแปลง | -0.33 | 0.49 | 1.84 | -4.70 | 1.0-1.5 |
2. การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง | 5,469 | 5,289 | 6,317 | 7,002 | 6,500-6,800 |
% เปลี่ยนแปลง | -0.88 | -3.28 | 19.43 | 10.83 | (-3.0)-(-7.0) |
3. การประกันภัยรถ | 144,025 | 146,017 | 147,406 | 154,886 | 165,500-166,500 |
% เปลี่ยนแปลง | 5.69 | 1.38 | 0.95 | 5.07 | 6.8-7.5 |
4. การประกันภัยเบ็ดเตล็ด | 84,443 | 91,144 | 98,717 | 102,461 | 103,000-104,700 |
% เปลี่ยนแปลง | 5.32 | 7.94 | 8.31 | 3.79 | 0.5-2.0 |
รวมการรับประกันภัยทุกประเภท | 244,055 | 252,618 | 262,795 | 274,216 | 285,000-288,000 |
% เปลี่ยนแปลง | 5.15 | 3.51 | 4.03 | 4.35 | 4.0-5.0 |
ที่มา: สำนักงาน คปภ. | |||||
รวบรวมและคาดการณ์: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย |
เบี้ยรับที่เป็นตัวนำในการสนับสนุนการเติบโตของภาพรวมธุรกิจประกันวินาศภัยในปีนี้ มาจากการรับประกันภัยรถเป็นหลัก โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเบี้ยรับตรงจากการรับประกันภัยรถในปีนี้จะขยายตัวจากปีก่อนที่ 6.8-7.5% ตามผลบวกด้านยอดขายรถยนต์ใหม่ การท่องเที่ยว และการขนส่ง นอกจากนี้ ยังมีผลของอัตราเบี้ยประกันที่เพิ่มขึ้นตามการแข่งขันที่ลดลง ต้นทุนการรับประกันที่สูงขึ้นตามอัตราการทำประกันภัยต่อ รวมถึงประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเบี้ยประกันเฉลี่ยสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปในประเภทเดียวกันประมาณ 20% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลสะท้อนจากตลาดที่ยังไม่สมบูรณ์ ทั้งในมุมปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังอยู่ในหลักหมื่นคัน (เทียบกับจำนวนการทำประกันภัยรถภาคสมัครใจที่มีกว่า 11 ล้านคันต่อปี) และข้อมูลสถิติการเคลมสินไหมยังไม่ชัดเจน รวมทั้งมีประเด็นเรื่องความเสียหายของแบตเตอรี่จากอุบัติเหตุทั่วไปที่อาจถึงขั้นคืนทุน ประกอบกับจำนวนผู้ให้บริการที่ยังมีน้อย อย่างไรก็ดี ในช่วงปลายปีนี้คงมีความชัดเจนในเรื่องอัตราเบี้ยประกันและเงื่อนไขเฉพาะของการรับประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า ประกอบกับปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกสู่ตลาดและผู้ให้บริการประกันที่เพิ่มขึ้น น่าจะทำให้อัตราเบี้ยประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้ามีความเหมาะสมและสามารถสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ดีขึ้น
สำหรับแรงดึงรั้งภาพรวมธุรกิจในปีนี้ มาจากการรับประกันภัยทางทะเลและขนส่งที่รับผลกระทบจากทิศทางการส่งออกที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยด้านฐานที่สูง การประกันภัยสุขภาพที่บริษัทประกันต้องใช้ความรอบคอบในการรับประกันเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัญญาสุขภาพมาตรฐานใหม่มีเงื่อนไขไม่ให้ยกเลิกการต่ออายุกรมธรรม์ของลูกค้า ท่ามกลางความเสี่ยงที่สูงขึ้นทั้งจากวัย โรคภัย และค่าบริการทางสาธารณสุข
ขณะเดียวกัน ผลกระทบที่เกิดจากการรับประกันภัยโควิด 19 ในช่วงปี 2563-2565 ซึ่งมีค่าสินไหมทดแทนสูงเป็นอันดับ 2 ที่ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท รองจากเหตุมหาอุทกภัยในปี 2554 ที่มีค่าสินไหมกว่า 4 แสนล้านบาท อันเป็นอีกบทเรียนสำคัญที่กระตุ้นเตือนภาคธุรกิจประกันภัยและหน่วยงานผู้กำกับดูแล ให้ตระหนักถึงความเสี่ยงจากการแข่งขันเพื่อช่วงชิงช่องว่างทางการตลาด ในการออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ๆ ที่ไม่มีฐานข้อมูลสถิติรองรับเพียงพอ โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทขนาดเล็กที่มีขนาดทุนและสินทรัพย์ต่ำ ซึ่งแบบประกันโควิด 19 ประเภทเจอจ่ายจบ เป็นภาพสะท้อนการดำเนินงานที่ก่อความเสี่ยงเชิงระบบ รวมทั้งบ่งชี้ให้เห็นจุดเปราะบางของการรับประกันภัยและการกำกับดูแล
อัตราการเคลมสินไหมจากการรับประกันภัยโควิด 19 ที่สูงกว่าเบี้ยประกันภัยรับไม่น้อยกว่า 5 เท่าตัว ทำให้บริษัทประกันภัยปิดตัวลง 4 แห่ง และอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการ 1 แห่ง ขณะที่กองทุนประกันวินาศภัย ซึ่งมีเงินกองทุนสะสม ณ สิ้นปี 2564 จำนวน 6,178 ล้านบาท ต้องตกอยู่ในสถานะหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์ เนื่องจากยังติดค้างการชำระบัญชีแก่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย ณ สิ้นปี 2565 อีกกว่า 6.7 แสนคำขอ คิดเป็นจำนวนเงินกว่า 5.45 หมื่นล้านบาท โดยรายรับหลักของกองทุนที่มาจากเงินนำส่งของบริษัทประกันภัยต่อปีมีจำนวนเพียงหลักพันล้านบาท (อัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนประกันวินาศภัยตามกฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 0.5% ของเบี้ยประกันภัยรับ) ดังนั้น กองทุนประกันวินาศภัยคงต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยในการฟื้นตัวเพื่อรักษาความสามารถเสมือนเป็นหลักประกันหรือกันชนให้แก่ภาคประกันวินาศภัยและผู้เอาประกันภัย
สัดส่วนเบี้ยประกันภัยและ Loss Ratio (%)
ประเภทการรับประกันภัย | 2562 | 2563 | 2564 | 2565 |
1. การประกันอัคคีภัย | 4.15 | 4.02 | 3.94 | 3.60 |
Loss Ratio | 16.08 | 18.66 | 23.63 | 25.41 |
2. การประกันภัยทางทะเลและขนส่ง | 2.24 | 2.09 | 2.40 | 2.55 |
Loss Ratio | 34.83 | 40.79 | 37.68 | 35.65 |
3. การประกันภัยรถ | 59.01 | 57.80 | 56.09 | 56.48 |
Loss Ratio | 66.08 | 63.20 | 56.73 | 57.86 |
4. การประกันภัยเบ็ดเตล็ด | 34.60 | 36.08 | 37.56 | 37.37 |
Loss Ratio | 43.54 | 41.26 | 102.71 | 180.49 |
4.1 การประกันความเสี่ยงภัยทุกชนิดและทรัพย์สิน | 9.94 | 10.56 | 11.08 | 12.10 |
Loss Ratio | 44.20 | 48.91 | 35.79 | 38.86 |
4.2 การประกันภัยความรับผิดตามกฎหมาย | 1.10 | 1.11 | 1.15 | 1.36 |
Loss Ratio | 22.12 | 51.53 | 30.26 | 33.27 |
4.3 การประกันภัยอุบัติเหตุ | 12.55 | 12.25 | 11.89 | 11.44 |
Loss Ratio | 38.41 | 37.33 | 89.29 | 45.86 |
4.4 การประกันภัยสุขภาพ | 4.50 | 6.19 | 7.13 | 5.77 |
Loss Ratio | 59.42 | 46.01 | 182.10 | 523.48 |
4.5 การประกันภัยการเดินทาง | 0.92 | 0.34 | 0.43 | 0.83 |
Loss Ratio | 23.39 | 23.47 | 19.65 | 41.33 |
4.6 การประกันภัยอิสรภาพ | 0.07 | 0.06 | 0.06 | 0.04 |
Loss Ratio | 45.17 | 43.87 | 43.19 | 27.80 |
4.7 การประกันภัยอื่น | 5.50 | 5.57 | 5.82 | 5.84 |
Loss Ratio | 40.62 | 36.62 | 34.98 | 47.81 |
รวมเบี้ยประกันภัยรับตรงทุกประเภท | 244,055 | 252,618 | 262,795 | 274,216 |
Loss Ratio | 57.79 | 55.40 | 67.40 | 88.51 |
ที่มา: สำนักงาน คปภ. | ||||
รวบรวมโดย: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย |
สำหรับอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัยทั้งระบบในช่วงปี 2563-2565 จากฐานข้อมูลสมาคมประกันวินาศภัย ณ 26 ธันวาคม 2565 พบว่า ยังคงรักษาระดับค่าเฉลี่ยไว้ได้ที่ระดับประมาณ 440% อย่างไรก็ดี จากบทเรียนของการรับประกันโควิด 19 สะท้อนว่าไม่อาจพึ่งพิงระดับเงินกองทุนที่สูงได้โดยลำพัง แต่จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมการเปิดรับความเสี่ยงอย่างรัดกุม โดยสถานะเงินกองทุนของบริษัทสามารถพลิกกลับจากระดับเงินกองทุนสูงกว่า 400% เป็นติดลบ 400% ได้ภายในปีเดียว
กล่าวโดยสรุป แนวโน้มธุรกิจประกันวินาศภัยมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในมิติด้านเบี้ยประกันภัย ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความเข้าใจและความตื่นตัวระดับปัจเจกบุคคลที่เห็นความสำคัญของการทำประกันภัยเพื่อบรรเทาความเสี่ยง ขณะที่ความสามารถในการเป็นหลักประกันที่ดีที่เชื่อถือได้ของบริษัทประกันภัย ควรเป็นประเด็นที่นำเสนอเพื่อสร้างการตระหนักรู้มากขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ควบคู่กับความมั่นคงของบริษัท
ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามบทบาทของผู้กำกับดูแลภาคธุรกิจประกันภัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดหาแหล่งเงินทุนและเงินกู้ยืมให้แก่กองทุนประกันวินาศภัย เพื่อให้สามารถจ่ายเงินสินไหมให้แก่ผู้เอาประกันภัยโควิด 19 แทนบริษัทประกันภัยที่ล้มละลายและปิดกิจการไป นอกจากนี้ ยังต้องติดตามกรอบมาตรการที่เกี่ยวข้องในการให้ความเห็นชอบแบบประกันภัยใหม่ ๆ ให้อยู่ภายใต้การประเมินความเสี่ยงที่รอบคอบและคำนึงถึงความสามารถในการรับประกันภัยของแต่ละบริษัท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงในระยะยาวและร่วมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการรับประกันภัย อันเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งต่อผู้เอาประกันและความยั่งยืนของบริษัทประกันภัย