ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2562 LINE ประเทศไทย ได้ประกาศวิสัยทัศน์ Life on LINE ด้วยการเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของคนไทย โดยได้ดำเนินกการพัฒนาต่อยอดบริการใหม่ๆ ตามวิสัยทัศน์ดังกล่าว เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต ส่งผลให้เกิดผู้ใช้งานใหม่จำนวนเพิ่มมากขึ้นถึงกว่า 2 ล้านคนในเวลาเพียง 1 ปี ความสำเร็จของ LINE ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานในการดำเนินชีวิตสำหรับ New Normal Lifestyle นั้น เห็นได้ชัดจากการใช้บริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม LINE ในช่วงสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีผลกับการดำเนินชีวิตเกือบ 100% ทั้งการดำเนินชีวิตประจำวันที่ต้องมีการรักษาระยะห่าง การทำงานแบบ Work From Home การใช้ชีวิตที่ต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ซึ่งภายใน Ecosystem ของ LINE นั้น มีบริการครบถ้วนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตประจำวันและทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น
LINE Call มียอดการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้นเกิน 200% เมื่อเทียบเดือนม.ค. และ มี.ค. 2563 ทั้งการใช้งาน Voice call และ VDO call ด้วยเหตุนี้ LINE จึงพัฒนาฟีเจอร์ ฟังก์ชันเพิ่มเติมทั้งในส่วน LINE Call และ LINE on Desktop อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมคนไทยบนแพลตฟอร์ม LINE ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Watch Together ให้แชร์หน้าจอหรือดูวิดีโอ Youtube พร้อมกันใน LINE Group Call ได้ และเพิ่มจำนวนคนรองรับ LINE Call ได้มากสุดถึง 500 คนLINE Official Accout ธุรกิจการค้าขายสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด จำนวน LINE OA เพิ่มจาก 3 ล้านเป็น 4 ล้านบัญชี ณ เดือนพฤษภาคม 2563 ไม่เพียงแต่พัฒนาในส่วนโซลูชั่น เครื่องมือในการทำธุรกิจออนไลน์ แต่ LINE ยังนำเสนอแนวคิด กลยุทธ์ ในการทำธุรกิจออนไลน์ เพื่อขับเคลื่อนให้แบรนด์ไทยเติบโตบนโลกดิจิทัลได้อย่างยั่งยืนยอดการเติบโตของจำนวนร้านค้าที่ใช้ MyShop (No. of Shops Growth Rate) สูงถึง 180% (ณ เดือนเม.ย. เติบโตจากต้นปีคือเดือน ม.ค. 2563) ปัจจุบันมีจำนวนร้านค้าบน LINE Official Accoint ที่ใช้เครื่องมือ MyShop นี้อยู่เป็นหลักหมื่น จากช่วงแรกๆ ที่มีเพียงหลักร้อย หลักพันเท่านั้นLINE MAN ผู้ช่วยเบอร์หนึ่งที่ทำให้ได้รับประทานของอร่อยโดยไม่ต้องออกจากบ้าน มีการใช้งานเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นถึง 300 % เทียบกับการใช้งานในสถานการณ์ปกติ
นอกจากนั้น ความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง คือ LINE ได้ทำหน้าที่ของแพลตฟอร์มเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เมื่อกลไกทางเศรษฐกิจหลายย่างต้องหยุดชะงักเนื่องจากสถานการณ์ของโควิด-19 LINE ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้กลไกเหล่านั้นเดินหน้าต่อ อาทิ โครงการ Find Food ที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางระหว่างเกษตรกรและผู้ซื้อ โครงการ “ห้าง ททท. ช้อปฟินกินเที่ยวทั่วไทย” ที่นำงานแฟร์ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์ม LINE ให้ลูกค้าได้ช้อปกันง่ายขึ้น กระจายรายได้ไปยังโรงแรม และธุรกิจบริการทั่วประเทศได้อย่างง่ายดาย หรือแม้แต่ธุรกิจยานยนต์ที่นำแพลตฟอร์ม LINE ไปใช้ประโยชน์ในการสื่อสารข้อมูลรถยนต์กับลูกค้า รวมถึงการทำนัด Test Drive ได้ถึงบ้าน รวมถึงแบรนด์เครื่องสำอางใหญ่ๆ ก็ยังหันมาทำธุรกิจอีคอมเมิรซกันมากขึ้นในช่วงที่หน้าร้านในห้างสรรพสินค้าไม่สามารถเปิดให้บริการได้