บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้นำในการให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง เผยผลประกอบการไตรมาส 3/2565 มีรายได้รวม 262.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% กำไรพุ่ง 32.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 181.33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564 เติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะจากบริการขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจหลัก รายได้รวม 9 เดือนโต 27.2% หรือ 669.4 ล้านบาท และกำไรเพิ่มขึ้น 42.6% หรือ 81.3 ล้านบาท ย้ำ KIAT ยังคงเดินหน้ามุ่งเพิ่มรายได้จากบริการขนส่งซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้กว่า 70% ของบริษัทฯ ในขณะที่เร่งเพิ่มรายได้จากธุรกิจอื่นๆ และธุรกิจใหม่ ทั้งการขายเคมีภัณฑ์ การติดตั้ง Guardian System ระบบป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ รวมทั้งบริการ “สิบล้อลีสซิ่ง” สินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง มั่นใจรายได้ปิดปี 2565 จะเติบโตรวมกว่า 20%
นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกียรติธนาขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยรายได้จากทุกธุรกิจของ KIAT และบริษัทย่อยเติบโตไปในทิศทางที่น่าพอใจ มีกำไร 32.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 181.33% มีรายได้รวม 262.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ที่เติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจของ KIAT และบริษัทย่อย โดยยังมีรายได้หลักกว่า 70% จากบริการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ
“ภาพรวมของ KIAT 9 เดือนที่ผ่านมา เรามีรายได้เติบโตขึ้น 27.2% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2564 จาก 526.2 ล้านบาท เป็น 669.4 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนจากบริการขนส่งเป็นรายได้หลักกว่า 70% ส่วนรายได้อื่น ๆ มาจากการขายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ การติดตั้ง ให้เช่า หรือจำหน่าย Guardian System ระบบป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ รวมทั้งรายได้จากการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง “สิบล้อลีสซิ่ง” ซึ่งเป็นบริการที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ รายได้จากบริการขนส่งตลอด 9 เดือนเติบโต 24.13% จาก 391.69 ล้านบาท เป็น 486.19 ล้านบาท รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น 37.75% จาก 99.55 ล้านบาท เป็น 137.13 ล้านบาท และรายได้จากบริการอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจาก 34.95 ล้านบาท เป็น 46.06 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.78% จาก 9 เดือนแรกของปี 2564” นางสาวมินตรากล่าว
สำหรับต้นทุนรวมไตรมาส 3/2565 KIAT มีต้นทุนรวม 181.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 53.36 ล้านบาท หรือ 41.68% ซึ่งต้นทุนรวมประกอบด้วยต้นทุนบริการและต้นทุนขาย สำหรับในส่วนของต้นทุนบริการเพิ่มขึ้นจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นของสัญญาใหม่ และจากราคาน้ำมันที่ยังคงมีราคาสูงกว่าปี 2564 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคก๊าซธรรมชาติโดยรวมในประเทศสูงขึ้น จึงส่งผลให้ KIAT ได้รับงานขนส่ง NGV เพิ่ม ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่วนต้นทุนขายเพิ่มสัมพันธ์กับยอดขายที่เติบโต ประกอบกับต้นทุนสินค้าปรับราคาสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม KIAT ให้ความสำคัญกับการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้บริหารฟลีตรถ รวมทั้งการบริหารบุคลากรด้วยการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและการควบคุมดูแลพนักงานขับขี่ ด้วยการจัดอบรมหลักสูตรขับขี่ที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง การตั้งเป้าหมายในการขับขี่ให้ประหยัดน้ำมัน พร้อมเสริมแรงจูงใจให้กับพนักงานที่ขับขี่ประหยัดน้ำมัน
ในธันวาคม 2565 นี้ KIAT จะเริ่มดำเนินงานขนส่ง NGV ให้กับ PTT ตามสัญญาที่ประมูลงานมา โดยมีอายุสัญญา 2 ปี คาดการณ์รายได้กว่า 40 ล้านบาทตลอดอายุสัญญา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากงานดังกล่าวตั้งแต่ปลายปี 2565 เป็นต้นไป ด้านบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง “สิบล้อลีสซิ่ง” ณ ไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ ได้ปล่อยสินเชื่อรวม 201.2 ล้านบาท โดยเริ่มรับรู้รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจใหม่ดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา หลังจากเริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2564 ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างงรายได้เติบโตรวมกว่า 20% ในปี 2565 ตามเป้าหมาย ด้วยการเร่งเพิ่มรายได้จากธุรกิจขนส่งซึ่งเป็นหลักของ KIAT รวมทั้งการขายเคมีภัณฑ์ การติดตั้ง ให้เช่า หรือจำหน่าย Guardian System ระบบป้องกันการหลับในและการละสายตาขณะขับขี่ และจากการบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง “สิบล้อลีสซิ่ง”
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งวัตถุอันตรายที่มีมาอย่างยาวนาน จึงทำให้ปัจจุบัน KIAT มีบริการขนส่งสินค้าที่ต้องใช้ความปลอดภัยสูงมากมาย อาทิ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ สารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม และอื่น ๆ ถึงแม้ว่าราคาของสินค้าข้างต้นจะมีความผันผวน เนื่องจากขึ้นอยู่กับราคาในตลาดโลก แต่ด้วยความสามารถด้านการขนส่งที่หลากหลาย KIAT มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าความผันผวนของราคาสินค้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการโดยรวมของบริษัท รวมทั้ง KIAT จะยังให้ความสำคัญในการมองหาโอกาสจากธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม และเติบโตอย่างยั่งยืน นางสาวมินตรากล่าวทิ้งท้าย