ปัจจุบันรูปแบบการศึกษาทั่วโลกได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาททางการศึกษาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วฉับพลัน สถาบันอุดมศึกษาจึงต้องปรับตัวรองรับสถานการณ์ดังกล่าว เน้นการเพิ่มทักษะหรือการเปลี่ยนทักษะ (Upskill / Reskill) เพื่อให้นักศึกษามีทักษะที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป มีทักษะและความรู้ที่หลากหลาย ยืดหยุ่น สามารถปรับตัวรองรับความต้องการของตลาดงานที่ถูกกระทบด้วยภาวะวิกฤตต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ล่าสุดสาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีนโยบายสนับสนุนเสริมศักยภาพให้นักศึกษาก้าวทันโลกธุรกิจ เน้นการเรียนการสอนผ่านผู้เชี่ยวชาญการตลาดภาคเอกชนชั้นนำระดับประเทศไทย
คุณพิสิฐกานต์ ฉัตรจรัสแสง ผู้จัดการแผนกบริหารองค์ความรู้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า “ครั้งนี้หลักๆ เลยมาเริ่มถ่ายทอดความรู้เรื่อง 4P ให้กับนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คิดว่าเป็นหลักแก่นของการตลาดที่สำคัญอันดับแรก นักศึกษาหลายคนอาจจะคิดว่าง่ายแค่ 4P รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่นักการตลาดมือใหม่มักจะไปมุ่งเน้นที่ P ตัวสุดท้ายคือ Promotion ซึ่งจริง ๆ แล้วนักการตลาดที่ดี ไม่ใช่นักการตลาดที่ Promotion ได้เก่ง แต่ P ตัวแรกต่างหากที่สำคัญที่สุด ถ้าจุดเริ่มต้นที่ Product ดี สามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ มีจุดเด่นที่แตกต่าง และมีจุดขายในตัวมันเอง อีก 3P ก็ไม่ต้องหากลยุทธ์มากมายมาทำให้เหนื่อย เพราะเราจะสามารถเล่นกลยุทธ์ด้าน Price ได้หลายแบบหรืออาจตั้ง Price ได้สูงกว่าคู่แข่ง ซึ่งทำให้ได้กำไรที่สูงขึ้นเป็นผลดีทางธุรกิจ และ P ตัวที่สาม คือ Place จะตามมาเอง โดยที่เราไม่ต้องวิ่งหาช่องทางขาย ไม่ต้องไปง้อใครให้เอาสินค้าเราเข้าร้านให้เหนื่อย แต่ร้านจะรับเราเข้าไปขายเพราะสินค้าเรา ขายง่าย ขายดี มีกำไร ฉะนั้นอยากให้นักศึกษาตระหนักว่าการทำการตลาดนั้นไม่ใช่การทำ Promotion มา ลด แลก แจก แถม หรือไปกระตุ้น Need แบบที่ไม่ Want แต่เป็นการทำเพื่อลดและแก้ไข Pain เพิ่ม Gain ให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าดีขึ้นเมื่อได้ใช้ Product ของเรา หวังว่านักศึกษาจะเป็นนักการตลาดที่ดี ที่สามารถสร้างสิ่งใหม่และสร้างนวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นในตลาดไทยจนสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ในอนาคต”
คุณธันยพร โชควิวัฒน ผู้จัดการโครงการ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้มีหลายจุดที่แตกต่างออกไปจากปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ปรึกษากับทางอาจารย์และได้ปรับเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการของนักศึกษา และบริษัทเองมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นปีที่แล้ว จะมีการอธิบายข้อมูลขององค์กรเบื้องต้น พร้อมแจกโจทย์โปรเจคท์ให้กับนักศึกษา และจะมีทางทีมงานเข้าไปฟังการนำเสนอ รวมถึงให้คำปรึกษาโครงการแก่นักศึกษา จะไม่มีการบรรยายพิเศษ ในปีนี้ทางบริษัทก็ได้เพิ่มการบรรยายพิเศษให้กับนักศึกษาเข้ามา เพื่อให้นักศึกษาได้เห็นภาพการทำการตลาดในมุมของการปฏิบัติจริงได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การนำเสนอโครงการให้กับทางบริษัทโดยตรงแบบนี้เหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ให้ได้ทดลองทำงานกับบริษัทจริง ๆ ซึ่งโดยปกติ ถ้านักศึกษาเรียนอยู่แค่ในห้องเรียนจะไม่ได้มีโอกาสแบบนี้ นอกจากนี้ยังเป็นการให้นักศึกษาได้รู้ ฝึกฝนตัวเอง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ก่อนที่จะต้องเข้าไปทำงานในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย ซึ่งนักศึกษาจะเห็นได้ว่ามีบางจุดที่แตกต่างจากสิ่งที่นักศึกษาได้เรียนรู้มาจากในตำรา ส่วนมุมมองเรื่องการทำการตลาดนั้น มองว่าเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากกว่าตนเอง อยากให้การทำการตลาดของนักศึกษามองให้รอบด้าน นักการตลาดหรือนักศึกษาบางคนอาจจะมองแค่ในมุมของการตลาด และการขาย แต่การที่บริษัทสร้างผลิตภัณฑ์หรือการบริการหนึ่งขึ้นมาเพื่อการขายนั้น มีองค์ประกอบหลายอย่าง อยากให้คิดให้รอบคอบ พยายามใช้เครื่องมือที่มีมาช่วยเปิดมุมมองที่หลากหลายให้กับตัวเองมากขึ้น”
