บริษัท Elia Grid International (EGI) บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและอุตสาหกรรมไฟฟ้าระดับโลก ได้จัดงานสัมมนาเปิดตัวสำนักงานใหม่ในกรุงเทพฯ โดยมีผู้บริหารระดับสูงและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมงาน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมองของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) ในประเทศไทย รวมทั้งได้มีการนำเสนอประสบการณ์ของ Elia Group เกี่ยวกับความท้าทายในการพัฒนาระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
มาร์คุส เบร์เกอร์ ประธานบริหารฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานของ Elia Transmission Belgium กล่าวว่า การจัดงานเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตเบลเยียมประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตไทยในเบลเยียม และสำนักงานคณะกรรมการ นโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) การเปิดสำนักงานใหม่ในไทยครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของ EGI ในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนให้บรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งประเทศไทยมีเป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ภายในปี 2593 และ “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์” ในปี 2608 ทั้งนี้ ต้องอาศัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายระบบไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ ด้วยโมเดลธุรกิจที่ล้ำสมัย ร่วมกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
“EGI เป็นบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกในเครือ Elia group ที่ประกอบด้วยผู้ให้บริการระบบส่งไฟฟ้า (TSO) ในเบลเยียม Elia และ เยอรมนี 50 Hertz ทั้งสองหน่วยงานนี้ ถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจระบบส่งไฟฟ้าของทวีปยุโรป ดังนั้น EGI จึงสามารถให้คำปรึกษาจากประสบการณ์และการดำเนินงานในภาคปฏิบัติ นอกจากนี้เรายังเลือกสำนักงานแห่งใหม่ที่กรุงเทพฯ เนื่องจากประเทศไทยตั้งอยู่บริเวณจุดศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการพัฒนาตลาดซื้อขายแลกแลกเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคนี้ “
ดิดิเยร์ ไวออต ซีอีโอของ Elia Grid International กล่าวว่า เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเปิดสำนักงานในประเทศไทย และขยายธุรกิจของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราเชื่อว่าประสบการณ์และและความเชี่ยวชาญของเราทั้งภายในและภายนอก Elia group ผ่านการร่วมงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนด้านพลังงาน จะช่วยส่งเสริมให้เราสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทยได้
เฟรเดริก ฟาน เคาเทอเรน ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ EGI กล่าวว่า EGI มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการจัดการกับความท้าทายด้านพลังงานในภูมิภาคนี้ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าทำเลของประเทศไทย ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโครงข่ายพลังงานในภูมิภาคนี้ ซึ่งเทียบได้กับตำแหน่งที่ตั้งของประเทศเบลเยียมในยุโรป ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับส่งผ่านความเชี่ยวชาญที่เรามี นอกจากนี้ เรายังเล็งเห็นศักยภาพอันยอดเยี่ยมในการขยายพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย โดยอาศัยประสบการณ์จากเยอรมนีในการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบไฟฟ้าสูง EGI ผมรู้สึกขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมงานและหวังว่าจะได้ร่วมงานกันต่อไปในอนาคต