Dow ผนึก กรมทะเล ปลูกป่าชายเลนสร้างคาร์บอนเครดิต

199

Dow ผนึก กรมทะเล ปลูกป่าชายเลนสร้างคาร์บอนเครดิต เผยปลูกป่าต้องต่อเนื่อง พร้อมดูแล 10 ปี

กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) จัดกิจกรรม “ดาวปลูกกล้า รักป่าชายเลน” ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และจังหวัดระยอง โดยปลูกป่าชายเลนเพิ่มเติมอีก 13.38 ไร่ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ภายใต้โครงการ ดาวและภาคีป่าชายเลนประเทศไทย หรือ Dow & Thailand Mangrove Alliance ตั้งเป้าร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลนไทยอย่างมีส่วนร่วม เพื่อแก้วิกฤตโลกร้อนและลดปัญหาขยะทะเลอย่างยั่งยืน ชูจังหวัดระยอง นำร่องป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต หวังเพิ่มพื้นที่สีเขียวจากป่าเลนและสร้างมูลค่าเพิ่มจากคาร์บอนเครดิตให้กับชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ย้ำความสำเร็จของการปลูกป่าต้องดูแลต่อเนื่อง พร้อมประกาศดูแลป่าชายเลนที่ปลูกใหม่เป็นระยะเวลา 10 ปี

Dow และภาคีเครือข่ายในโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการอนุรักษ์ป่าชายเลนซึ่งดูดซับและกักเก็บคาร์บอนได้มากกว่าป่าบกถึงสี่เท่า จึงได้ร่วมฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่เคยถูกบุกรุกเพื่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในตำบลเนินฆ้อ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่อสร้างประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนและคนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่กระบวนการเพาะกล้าไม้ การปลูกพันธุ์ไม้หลากหลายที่เหมาะสมกับภูมิทัศน์ ตลอดจนการดูแลให้ต้นไม้เติบโต เพื่อได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตตลอด 10 ปี โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิตจำนวน 300,000 ไร่ ที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมปลูกป่าและสร้างการมีส่วนร่วม รวมทั้งเพิ่มรายได้ของชุมชน อันจะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายของประเทศไทยที่จะมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ภายในหรือก่อนปี ค.ศ. 2065 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow มีการปลูกป่าชายเลนทุก ๆ ปีอย่างต่อเนื่องมากว่า 15 ปีในประเทศไทย เราภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยพลิกฟื้นผืนป่าเสื่อมโทรมและนากุ้งเก่าในเขตจังหวัดระยองให้กลายเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ เคล็ดลับสำคัญที่เราเชื่อมั่นคือ ความต่อเนื่อง และการสร้างเครือข่ายในการฟื้นฟูดูแลป่าชายเลนให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมอย่างสมดุล ซึ่งเราต้องขอขอบคุณ ทช. ที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในโครงการ Dow & Thailand Mangrove Alliance ร่วมกันผลักดันกลไกการปลูกป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิตอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยกระดับการอนุรักษ์ป่าชายเลนของไทยให้ไปสู่ระดับสากลและเกิดการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและชุมชนยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ โดยในวันนี้ เราได้มาร่วมกันปลูกป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิตเป็นครั้งแรกของ Dow ในประเทศไทย โดยคาร์บอนเครดิตที่ได้จากโครงการฯ จะมีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจของประเทศไทย หรือ Thailand Voluntary Emission Reduction Program (T-VER) ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่การปลูกป่าเพียงวันเดียว แต่จะยังมีการดูแลต่อเนื่องถึง 10 ปี เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านคาร์บอนเครดิตและด้านสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง”

นายอภิชัย เอกวนากุล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า “ทช. ได้ตั้งเป้าฟื้นฟูป่าชายเลนเพื่อคาร์บอนเครดิต 300,000 ไร่ ภายใน 10 ปี ซึ่งตอนนี้เรื่องคาร์บอนเครดิตในบ้านเราถือเป็นวงจรใหญ่กว่าเดิมมาก มีเอกชนหลายแห่งต้องการเข้ามามีส่วนร่วม เพราะตลาดคาร์บอนเครดิตขายได้ สร้างรายได้ นอกจากการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังสามารถเป็นแหล่งสร้างอาชีพและรายได้คืนสู่ชุมชน ชุมชนท้องถิ่นและชุมชนชายฝั่งจึงเป็นกำลังสำคัญในการมีส่วนร่วมดำเนินโครงการตั้งแต่ต้น รวมทั้งการดูแล ฟื้นฟู จัดการ บำรุงรักษา และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าชายเลนอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมถึงส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต เพื่อปรับตัวเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ และช่วยให้มีพื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว”

นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “ระยองเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีความสมบูรณ์ของผืนป่าชายเลนเป็นอย่างยิ่ง เรามีป่าชายเลนอยู่บนพื้นที่ตามแนวชายฝั่งกว่า 30,000 ไร่ และได้เตรียมพื้นที่ในการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตร่วม 2,000 ไร่ กลไกคาร์บอนเครดิตมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนให้เข้ามาดูแลรักษาและฟื้นฟูทรัพยากร และทำให้เกิดการสร้างงานในท้องที่ด้วย ระยองเป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย เป็นฐานการผลิตทั้งอุตสาหกรรม มีอัตลักษณ์ วัฒนธรรมและยังเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและแหล่งดูดซับคาร์บอนรวมไปถึงพื้นที่การอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ มีประโยชน์ไม่เฉพาะแต่คนระยองเพียงเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์ต่อโลกด้วย ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีความสนใจร่วมกันดูแลทรัพยากรสัตว์น้ำและป่าชายเลนให้คงอยู่ถึงรุ่นลูกหลานสืบไป”

นับตั้งแต่ พ.ศ. 2552 จวบจนปัจจุบัน พนักงานดาวอาสา ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และประชาชนในจังหวัดระยองได้ร่วมกันเพิ่มพื้นที่สีเขียวตามแนวชายฝั่งด้วยการปลูกและดูแลป่าชายเลนอย่างต่อเนื่องมาตลอด 15 ปี เพื่อเป็นการตอกย้ำพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และยังมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในการต้านโลกร้อนอย่างต่อเนื่องตามเป้าการทำงานด้านความยั่งยืนขององค์กร