ไตรมาส 1 ปี 65 BKI มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,619.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5% และยังคงยืนยันความแข็งแกร่งด้วยการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น 3.50 บาทเช่นเดิม
ผลการดำเนินงานของกรุงเทพประกันภัย ไตรมาส 1 ของปี 2565 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม6,619.1 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.5 มีผลขาดทุนสุทธิ 3,580.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 538.7 จากผลกระทบเคลมโควิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงยืนยันความแข็งแกร่งด้วยกำไรสะสม พร้อมจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.50 บาทเช่นเดิม
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 (ม.ค.-มี.ค.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,619.1 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2564 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 มีผลขาดทุนสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 5,155.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1,264.9 สาเหตุหลักมาจากค่าสินไหมทดแทนเพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สายพันธุ์โอไมครอนที่ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้สุทธิจากการลงทุน 969.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 99.2 และขาดทุนก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 4,186.6 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 3,580.5 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 538.7 ขาดทุนต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 33.63 บาท
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งได้ประชุมเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 มีมติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2565 แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 3.50 บาท ซึ่งเท่ากับไตรมาสที่ 1 ปี 2564 เนื่องจากบริษัทฯ มีกำไรสะสมเพียงพอต่อการจ่ายเงินปันผล บริษัทฯ ขอยืนยันในความมั่นคงแข็งแกร่งของฐานะการเงินที่มีการบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นอย่างดี กรุงเทพประกันภัยยังคงมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความคาดหวัง และสร้างประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า คู่ค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ทุกกลุ่ม ตามหลักปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่ยืดถือมาตลอดระยะเวลา 75 ปี