สตาร์ทอัพไทยเจ๋ง ผลิตแผ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ติดหลังมือถือ ส่งออกทั่วโลก

638

ลีฟคลีน เทคโนโลยี บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทยผู้พัฒนาแผ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 เปิดตัวสินค้าใหม่           ซีทัช เจน 2.0 (Z-TOUCH GEN2.0) แผ่นฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียติดหลังมือถือ พร้อมรุกส่งออกมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

นายวิษณุ จินตนาศิริกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีฟคลีน เทคโนโลยี จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย กล่าวถึง ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ ซีทัช (Z-Touch) แผ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ติดหลังมือถือและจุดสัมผัสร่วม ซึ่งได้ส่งลงสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่า ผลิตภัณฑ์ซีทัชได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคนต่างต้องหาเครื่องมือรวมถึงอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่ง ลีฟคลีน เทคโนโลยี ในฐานะสตาร์ทอัพคนไทย ซึ่งเป็นผู้พัฒนานวัตกรรมและผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซีทัช รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งในการเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ป้องกันการแพร่ระบาดและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 จากการสัมผัส โดยมุ่งเน้นช่วยคนไทยเป็นเป้าหมายหลัก โดยเฉพาะภาคส่วนแพทย์ พยาบาล รวมถึงบุคลากรด่านหน้า ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงก่อนเป็นลำดับแรก

โดยการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์นั้น ล่าสุดทางบริษัทฯ ได้มีการส่งผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งหลังมือถือ ซีทัช เจน 2.0 (Z-TOUCH GEN2.0) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาด โดยคุณสมบัติผลิตภัณฑ์นอกจากมีการรับรองผลในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย รวมถึงฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จากหลายสถาบันชั้นนำ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ประเทศสหรัฐอเมริกา, CE-Mark ประเทศยุโรป, SIAA ประเทศญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แล้ว ยังมีการเพิ่มจำนวนของ ไมโครพอรัสเลเยอร์ (Micro-Porous Layer) ซึ่งได้จดสิทธิบัตรนวัตกรรมเป็นเจ้าแรกของโลก ทำหน้าที่เหมือนหลุมดำที่จะดูดเชื้อลงสู่พื้นผิวชั้นล่างและกำจัดโดยทันทีทำให้พื้นผิวของแผ่นซีทัชสะอาดตลอดเวลา ช่วยลดการส่งต่อของเชื้อได้ในระยะเวลาเพียง 2 วินาที มีอายุการใช้งานนาน 90 วัน โดยวางจำหน่ายอยู่ที่ราคาเพียง 199 บาท ทำให้ผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งหลังมือถือ ซีทัช เจน 2.0 เป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก

นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ ซีทัช เจน 2.0 ที่พื้นผิวสามารถออกแบบและพิมพ์ลวดลายได้อย่างสวยงาม ทำให้หลายองค์กรและแบรนด์สินค้ามองว่าสามารถใช้คุณสมบัติดังกล่าวในการพัฒนาเป็นเครื่องมือทางการตลาด โฆษณาและประชาสัมพันธ์รูปแบบใหม่ได้ ทั้งยังสามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ของพรีเมียม กิ๊ฟเซ็ต ที่ออกแบบลวดลาย ภาพ โลโก้ หรือตามความต้องการขององค์กรและแบรนด์สินค้า เพื่อมอบหรือจำหน่ายให้แก่ลูกค้าได้ โดยลูกค้าสามารถเห็นแบรนด์ขององค์กรหรือสินค้าติดที่หลังมือถือผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา

ยิ่งไปกว่านั้น ทางบริษัทฯ ยังได้มีการเตรียมนำผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งหลังมือถือ ซีทัช เจน 2.0 คอลลาบอเรชั่น (collaboration) สร้างความร่วมมือระหว่างแบรนด์สินค้ากับศิลปินมีชื่อเสียงระดับโลกในหลายประเทศ อาทิ สวีเดน เกาหลีใต้ อเมริกา ฯลฯ เพื่อผลิตเป็นสินค้ารุ่นพิเศษมอบและจำหน่ายกับแฟนคลับ และเป็นสื่อกลางในการส่งต่อความปลอดภัยจากชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) สู่ชีวิตวิถีถัดไป (Next Normal) ที่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยเป็นสำคัญ

ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ ซีทัช มีนวัตกรรมฆ่าเชื้อทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ แผ่นฆ่าเชื้อติดมือถือ แผ่นฆ่าเชื้อติดบริเวณจุดสัมผัสร่วม (ประตู,ลูกบิด,ลิฟท์) และแผ่นฆ่าเชื้อติดตั้งในแอร์และเครื่องฟอกอากาศ โดยกลุ่มลูกค้าหลักเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กร 60% อาทิ ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิ กระทรวงพลังงาน คิงเพาเวอร์  โรงไฟฟ้า กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี และโรงพยาบาลในประเทศไทยมากกว่า 30 แห่ง ทั้งโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏ โรงพยาบาลสมิติเวช ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการติดตั้งผลิตภัณฑ์แผ่นฆ่าเชื้อซีทัชบริเวณจุดสัมผัสร่วมในบริเวณสวิสไฟ ที่จับประตู ปุ่มกดอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดการส่งต่อของเชื้อ รวมถึงจัดทำเป็นแผ่นฆ่าเชื้อในแบบขององค์กรสำหรับแจกพนักงาน หรือใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม ส่วนอีก 40% เป็นลูกค้ากลุ่มประชาชนทั่วไปที่นิยมใช้ผลิตภัณฑ์ซีทัชแบบแผ่นฆ่าเชื้อติดหลังโทรศัพท์มือถือ

ส่วนการส่งออกต่างประเทศนั้น ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ซีทัชมีการจัดจำหน่ายแล้วมากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยเริ่มจากหลายประเทศในทวีปเอเชีย อาทิ ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, เวียดนาม, ลาว ฯลฯ รวมถึงมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกา และล่าสุดได้มีการแต่งตั้งเซ็นต์สัญญากับตัวแทนภาคพื้นยุโรป เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ซีทัชเข้าไปจำหน่ายในตลาดฝั่งยุโรปมากขึ้น ทำให้คาดว่ารายได้ในปีแรกที่วางไว้ 300 ล้านบาท และเติบโตได้มากกว่า 700% จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน