‘ไทยประกันชีวิต’ จับมือ รพ. กรุงเทพ สำนักงานใหญ่ จัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ

675

นายไชย ไชยวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปัจจุบันที่ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้โรงพยาบาลประสบปัญหาขาดแคลนเตียงในการ รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ไทยประกันชีวิตในฐานะองค์กรที่มุ่งบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมไทย จึงพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาการขาดแคลนเตียงเพื่อให้มีเตียงสำรองสำหรับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษา และลดโอกาสที่อาการจะรุนแรงขึ้นจนเสียชีวิต รวมถึงสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ไทยประกันชีวิตที่มุ่งเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions โดยเฉพาะการส่งมอบสุขภาพที่ดีแบบครบวงจร หรือ Eco-Health System สำหรับผู้เอาประกันภัย ทั้งในเชิงป้องกันและการดูแลรักษา

            บริษัทฯ จึงได้ร่วมมือกับพันธมิตร โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ จัดตั้งหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) โดยปัจจุบันมี Hospitel จำนวน 3 แห่ง ในกรุงเทพฯ ทั้งนี้เพื่อรองรับผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ ซึ่งได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อโควิด-19 และมีความต้องการพักรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์

            สำหรับผู้เอาประกันภัยที่เข้ารับการรักษา จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ หรือ RT-PCR และได้รับการประเมินอาการจากโรงพยาบาลว่าสามารถเข้ารักษาใน Hospitel ได้ โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาเข้ารับการรักษาใน Hospitel ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของโรงพยาบาล ซึ่งผู้เข้ารับการรักษาจะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเป็นมาตรฐานของทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

            ผู้เอาประกันภัยสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ผ่านเว็บไซต์ www.thailife.com และแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต โดยกรอกข้อมูลพร้อมแนบเอกสารที่จำเป็น ซึ่งจะได้รับการติดต่อกลับจากโรงพยาบาลต่อไป ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิตได้ฟรี ทั้งระบบ IOS และ Android

            “บริการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างไทยประกันชีวิต และโรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าของบริษัทฯ ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และต้องการเข้ารับการรักษาใน Hospitel แต่ไม่ทราบว่าจะต้องติดต่อหน่วยงานใด หรือไม่สามารถติดต่อหน่วยงานของภาครัฐได้ อย่างไรก็ดีการเข้ารับการรักษาจะต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์เป็นสำคัญ” นายไชย กล่าว