ในประเทศไทยมีบ้านทั้งหมด 27.2 ล้านหลังคาเรือน มีเพียงแค่ 3.2 หลังคาเรือนเท่านั้นที่มีประกันบ้าน ในขณะที่สัดส่วนผู้มีประกันบ้านในประเทศสหรัฐอเมริกา สูงถึงประมาณ 80% หรือแม้กระทั่งแถบเพื่อนบ้านทางเอเชียอย่างจีน สัดส่วนผู้ประกันบ้านในประเทศยังสูงถึง 70%
สมบัติส่วนตัวในชีวิตที่ทุกครอบครัวใฝ่ฝันและลงทุนเก็บเงินกู้ยืมเพื่อให้ได้มาก็คือ บ้านและรถยนต์ ในขณะที่รถยนต์มีผู้เอาประกันกว่า 55% (จำนวนทั้งหมด 11 ล้าน กรรมธรรม์ จากจำนวนรถยนต์ทั้งหมด 20 ล้านคัน , ที่มา สำนักงานเบี้ยอัตราประกันวินาศภัย และ กรมขนส่งทางบก) แต่บ้านมีแค่ 12% (จำนวนทั้งหมด 3.2 ล้าน กรรมธรรม์ จากบ้านทั้งหมด 27 ล้านหลัง, ที่มา สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และ สำนักบริหารการทะเบียน) แต่จำนวนเงินประกันต่อรถยนต์หนึ่งคันต่อปี (3%) แต่เงินประกันบ้านแค่เพียง (0.2-0.5%) ของมูลค่าบ้านเท่านั้น
มหาวิกฤตโควิดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนอย่างรุนแรงในหลายด้าน และพฤติกรรมบางด้านหลังจากโควิดผ่านไปแล้วก็จะยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์ การทำงานแบบ Work From Home ซึ่งส่งผลให้การใช้เวลาอยู่กับบ้านสูงขึ้นมาก ทั้งในช่วงโควิดและหลังโควิดผ่านไป ยอดขายบ้านชานเมืองที่สูงขึ้นทั่วโลก ยอดขายของอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน อุปกรณ์ออกกำลังกายและ gadget ที่เกี่ยวกับบ้านขายดีและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสสินค้าอื่น ๆ ทั้งหมด บ้านจะกลายเป็นจุดศูนย์กลางของผู้คนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนหลังจากนี้
เมื่อบ้านกลายเป็นศูนย์กลางของผู้คนแทนรถยนต์และที่ทำงาน ความห่วงบ้าน ความปลอดภัยของบ้าน ผู้คนและสิ่งของที่อยู่ในบ้านก็จะเพิ่มสูงขึ้นมาก การประกันความเสียหายของบ้านในด้านต่าง ๆ จึงจะเป็น Megatrend ใหม่ของไทย ถ้ามีบริษัทประกันที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ ตลาดการประกันบ้านจึงมีแนวโน้มที่จะเป็น New Normal Insurance อย่างที่อุตสาหกรรมไม่เคยเห็นมาก่อนจากผลกระทบของโควิด
TQM ได้ทำวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างคนห่วงบ้าน และพบถึงความต้องการที่สูงมากของประกันบ้าน ในอดีตการประกันบ้านมีความยุ่งยาก ไม่สามารถทำบนออนไลน์ได้ มีให้เลือกไม่กี่แบบ และเน้นไปแค่ประกันอัคคีภัยในขณะที่คนห่วงบ้านมีความกังวลที่มากกว่านั้น TQM จึงได้ออกแบบประกันบ้านใหม่หมดเพื่อตอบโจทย์ใหม่ โดยเปิดตัว TQM Home Insurance ขึ้นมา โดยมีจุดเด่นต่าง ๆ ดังนี้
ความครอบคลุมที่มากกว่าไฟไหม้
ในความเป็นจริง สิ่งที่ประกันบ้านสามารถคุ้มครองได้ นับรวมตั้งแต่เรื่องเล็กที่เราเจอกันบ่อยๆ อย่างเช่น น้ำรั่ว กระจกแตก ต้นไม้ล้มทับ โจรงัดบ้านไปจนถึงภัยใหญ่ ๆ อย่างไฟไหม้ หรือ ผลกระทบจากการระเบิดจากโรงงานย่านกิ่งแก้ว
ซึ่งเรามีความคุ้มครองที่คลอบคลุมกว่าร้อยเรื่องราวของการใช้ชีวิตในบ้าน ถึง 6 หมวดหมู่ ได้แก่
1. ประกันอัคคีภัยและภัยเพิ่ม เช่น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า), ภัยระเบิด ภัยจากการเฉี่ยวหรือการชนของยวดยานพาหนะ ภัยจากอากาศยาน และภัยเนื่องจากน้ำ รวมถึงภัยธรรมชาติ เช่น ภัยจากลมพายุ ภัยจากน้ำท่วม ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ,ภัยลูกเห็บ
2. โจรกรรม ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ มีร่องรอยงัดแงะ
3. คุ้มครองทรัพย์สินประเภทเงินสด หรือ ประกันภัยเงิน
4. คุ้มครองกระจกแตกจากอุบัติเหตุ
5. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
6. คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุภายในที่พักอาศัยของผู้เอาประกันภัย
ผู้เอาประกันสามารถเลือกออกแบบได้ตามความต้องการกว่า 100 แผน
ความคุ้มครองในแต่ละแผนประกัน จะมีหมวดหมู่ความคุ้มครองให้เลือกแตกต่างกัน (ภายใต้ 6 หมวดหมู่หลัก) ตามความต้องการหรือความเสี่ยงที่จำเป็นกับแต่ละคน ซึ่งจะมีวงเงินทุนประกันให้เลือกหลากหลายมากกว่า 100 แผน ตามความเหมาะสมของแต่ละบ้าน
เจาะกลุ่มสำคัญ 3 กลุ่มที่มีความต้องการต่างกัน
กลุ่มแรก คือ กลุ่มหัวหน้าครอบครัว มีอำนาจในการตัดสินใจ ต้องการดูแลหาหลักประกัน ความมั่นคงและสวัสดิภาพให้กับคนในบ้าน
กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตหรือกิจกรรมนอกบ้านค่อนข้างเยอะ ทำให้ไม่มีเวลาดูแลหรือยู่บ้านมากนัก ทำให้บ้านมีโอกาสเกิดความเสี่ยงได้จากภัยที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อัคคีภัย ภัยธรรมชาติ หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การโจรกรรม
กลุ่มที่สาม คือ กลุ่ม คนยุคใหม่ ที่มีรายได้และกำลังซื้อสูง มีของสะสม ทรัพย์สินแบรนด์เนม ของมีค่าจำนวนมากทีเสี่ยงต่อความเสียหายและการโจรกรรม แต่ยังขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องประกันภัย
ซื้อและต่อประกันได้ง่ายกว่าเดิมมาก
ในวันนี้นอกจากเราจะสามารถเข้าใจและเลือกความคุ้มครองตามความเสี่ยงที่เหมาะกับบ้านได้แล้ว การซื้อหรือต่อประกันภัยจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะ TQM Home Insurance Platform ถูกคิดมาเพื่อให้ใช้งานและเข้าใจได้ง่าย เพียงตอบคำถามที่จำเป็นเพียงไม่กี่ข้อก็สามารถซื้อแผนประกันที่เหมาะสมกับบ้านได้แล้ว หรือ หากไม่แน่ใจ ไม่สะดวกซื้อหรือต่อประกันผ่านช่องทางออนไลน์ TQM ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำปรึกษา ดูแล พร้อมช่วยเหลือลูกค้า ตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่ง TQM ไม่ได้ดูแลลูกค้าในช่วงของการซื้อเพียงเท่านั้น แต่ยังดูแลลูกค้าตลอดช่วงเวลาอายุประกันภัย โดยที่ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของการเคลมหรือการต่ออายุในระหว่างการใช้งานอีกด้วย
มี Platform ให้เช็คความเสี่ยงในพื้นที่ได้ก่อนตัดสินใจ
ลูกค้าสามารถทราบถึงภัยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านของตัวเองได้ ผ่านการระบุพื้นที่บ้านของตัวเอง และเมื่อกดเช็คความเสี่ยงตัวเครื่องมือจะแสดงผลความเสี่ยงที่อาจเกิดในบริเวณพื้นที่บ้านขึ้นมา ทำให้ผู้ใช้สามารถทราบได้ว่าความเสี่ยงภัยใดบ้าง ที่จำเป็นต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อแผนประกันบ้าน ซึ่งแตกต่างกันไปตามโซนพื้นที่บ้านของแต่ละคน
ราคาคุ้มครองที่เป็นสัดส่วนต่ำมากเมื่อเทียบกับมูลค่าบ้าน
ราคาที่คุ้มครองหรือวงเงินทุนประกันมีให้เลือกหลากหลาย เริ่มต้นตั้งแต่ 500,000 บาท ไปจนถึงหลักหลายสิบล้านบาท ขึ้นอยู่กับความต้องการ ขนาดบ้าน และมูลค่าทรัพย์สินภายในบ้านของแต่ละคน โดยเบี้ยประกัน เริ่มต้นเพียงแค่หลักร้อย ซึ่งเมื่อเทียบความมูลค่าความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับวงเงินที่จะได้รับ ก็ยิ่งถือว่าคุ้มค่า เนื่องจากวงเงินที่ให้ครอบคลุมความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นกับบ้านได้แล้ว
‘TQM Home Insurance’ ถูกออกแบบมาใหม่หมดโดยใช้คนห่วงบ้านเป็นจุดศูนย์กลาง เพื่อตอบโจทย์ใหม่ของโลกหลังโควิด (post covid world) ที่บ้านจะกลายเป็นจุดศูนย์รวมของชีวิต และมีความหมายมากกว่าแค่บ้าน (Home Not House) และคาดหมายว่าธุรกิจประกันบ้านจะเป็น New Normal Insurance ที่มีอัตราเติบโตสูงสุดในผลิตภัณฑ์ประกันทั้งหมดจากเทรนด์ของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
TQM Home Insurance ประกันสำหรับคนห่วงบ้าน https://home.tqm.co.th/