รมช.“ธรรมนัส” พอใจส.ป.ก. จัดรับฟังความเห็นทุกฝ่ายยกเครื่องพ.ร.บ.ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้ทันสมัย ได้ข้อคิดเป็นประโยชน์ตอบโจทย์บริบทสังคมและการกระจายสิทธิใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด เร่งขับเคลื่อนให้การตรากฎหมายเสร็จสิ้นโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 ณ ห้องประชุม ส.ป.ก. ถนนราชดำเนินและระบบประชุมทางไกลออนไลน์ โดยมีนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการส.ป.ก.เป็นประธาน ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย อดีตผู้บริหารส.ป.ก. ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ ส.ป.ก.ส่วนภูมิภาค 18 จังหวัด หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับที่ดินส.ป.ก. กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบกิจการสาธารณูปโภคและกิจการสนับสนุนเกี่ยวเนื่อง
ทั้งนี้ส.ป.ก.ได้จัดจ้างที่ปรึกษาโครงการศึกษาปรับปรุงกฏหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร และประชาชน เพื่อยกร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินใหม่ทั้งฉบับซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฏหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฏหมาย พ.ศ. 2562 กำหนดให้มีการรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นดังกล่าว ทำให้ส.ป.ก.ได้รับทราบสภาพปัญหาต่างๆของกฏหมาย คำสั่ง ระเบียบ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการใช้ดุลพินิจ ฯลฯ ที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินงานที่ยังติดขัดและไม่สอดรับกับบริบทของสังคมและระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีสารสน เทศ รวมถึงการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก โดยมีข้อเสนอให้พิจารณาเรื่องการถือครองที่ดิน การได้มาซึ่งที่ดิน การกระจายสิทธิให้ทั่วถึงเป็นธรรมและสอดคล้องกับสภาพที่ดินและสังคม รวมถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ส.ป.ก.ได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการยกร่างพ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมฉบับใหม่ให้ทันสมัยหลังจากที่ฉบับปัจจุบันใช้บังคับมายาวนานเกือบ 50 ปี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำกับดูแลสำนักงานส.ป.ก.ที่ต้องการแก้ปัญหาที่ดินในความรับผิดชอบของส.ป.ก.ให้เป็นไปทั้งระบบ จึงได้เร่งรัดให้ส.ป.ก.ดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วเพื่อจะได้เสนอร่างพ.ร.บ.ต่อรัฐสภาพิจารณาและผ่านออกมาเป็นกฏหมายใช้บังคับ
ข่าวแจ้งว่า ร.อ.ธรรมนัสได้รับทราบรายงานการจัดรับฟังความคิดเห็นครั้งแรกที่สำนักงานส.ป.ก.จัดขึ้น มีความพึงพอใจอย่างมากที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพราะเป้าหมายในการดำเนินการก็เพื่อปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ให้มีที่ทำกินโดยการปฏิรูปที่ดินซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ส.ป.ก.ได้รับมอบที่ดินของรัฐจำนวน 60.29 ล้านไร่ ประกอบด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 47.79 ล้านไร่ (กันออกและส่งคืน 13.88 ล้านไร่ คงเหลือ 33.91 ล้านไร่) ที่จำแนกออกจากเขตป่าไม้ถาวร 9.85 ล้านไร่ ที่ราชพัสดุ 1.66 ล้านไร่ และที่สาธารณประโยชน์ 9.9 แสนไร่ นอกจากนี้ยังมีที่จากการยึดคืนพื้นที่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่36/2559 ที่ผ่านความเห็นชอบแล้วจำนวน 50,000 ไร่ และที่ดินได้มาจากภาคเอกชน 5.4 แสนไร่ โดยทั้งหมดนี้ส.ป.ก.ได้ดำเนินการจัดที่ดินแล้ว 36 ล้านไร่ คิดเป็นสัดส่วน 77%
อนึ่ง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ร.อ.ธรรมนัสได้นำคณะผู้บริหารสำนักงานส.ป.ก.และทีมงานลงพื้นที่จังหวัดต่างๆในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพร้อมกับมอบหนังสืออนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินและสัญญาเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เช่น ภูเก็ต กระบี่ สุรินทร์ อำนาจเจริญ ฉะเชิงเทรา นครศรีธรรมราช ลำพูน นครราชสีมา เป็นต้น
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังมอบนโยบายในการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(คปก.) และผู้บริหารส.ป.ก.ให้จัดสรรที่ดินให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ ขณะเดียวกันให้มีการบูรณาการการทำงานของส.ป.ก.กับหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯและกระทรวงอื่นๆในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค ส่งเสริมพัฒนาอาชีพเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ประกอบกับขณะนี้ประเทศกำลังประสบวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 จึงขอให้หน่วยงานรัฐระดมพลังกันอย่างเต็มที่เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ สร้างเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรและประชาชนโดยเร็ว