กองทุนประกันชีวิต ตามหาเจ้าของเงิน 1.3 พันล้านบาท ปี 2563 คนแห่รับเงินเพิ่มกว่า 300%

823

กองทุนประกันชีวิต ตามหาเจ้าของเงิน 1.3 พันล้านบาทต่อ เผยกลยุทธ์เข้าถึงประชาชน 3 แนวทางประสบความสำเร็จ   ปี 2563 คนแห่รับเงินเพิ่มกว่า 300% ยกเคสคนดัง “เขาทราย แกเล็กซี่” ตอกย้ำความพึงพอใจในบริการ ขันอาสาช่วยกระจายข่าวสารเพิ่ม

นายจรัญ สอนสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต เปิดเผยถึงสถานะเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ เงินที่ผู้เอาประกันชีวิตหรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ หรือทายาทของผู้เอาประกันฯ มีสิทธิได้รับตามกรมธรรม์ แต่ไม่ได้มารับหรือร้องเรียนจากบริษัทจนพ้นอายุความภายใน 10 ปี  (เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ คืออะไร (คลิกลิ้งค์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=jwMzCp_tPGs )  แล้วเงินนั้นถูกส่งมาอยู่กองทุนฯ สิ้นสุดปี 2563 มีทั้งหมด 1,397,716,563 บาท จากจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด 1,003,750 ราย โดยจ่ายเงินคืนผู้มีสิทธิจำนวน 3,268 ราย ไปแล้ว 23,855,973 บาท และยังมีเงินค้างเหลืออีก 1,373,860,590 บาท จากจำนวนผู้มีสิทธิที่ยังไม่มารับอีกถึง 1,000,482 ราย

“ช่วงนี้ประชาชนกำลังได้รับความลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวันต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมามากขึ้น ด้วยเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมารุนแรงอีกรอบ ดังนั้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของประชาชน ทางกองทุนฯ ได้เร่งทำการเผยแพร่ วิธีการตรวจสอบเช็กสิทธิการรับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความต่อเนื่อง (คลิกลิ้งค์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=sIbl3XLB7aw ) หวังว่าจะทำให้เกิดการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของผู้คนเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วย แล้วจะได้บอกต่อๆ กันให้เข้าไปเช็กสิทธิในเว็บไซต์หรือสื่อต่างๆ ที่เราจัดทำขึ้นทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพราะวันนี้มีเงินก้อนนี้อยู่ที่กองทุนฯ กว่า 1,397 ล้านบาท ครับ” นายจรัญกล่าว และว่า

ที่ผ่านมากองทุนประกันชีวิตได้ดำเนินการจ่ายเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ จากที่บริษัทประกันชีวิตจำนวน 22 บริษัท นำส่งเข้ามายังกองทุนฯ คืนให้แก่ผู้มีสิทธิทั้งหมดนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ นี้ขึ้นมาเข้าสู่ปีที่ 14 จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563 คิดเป็นร้อยละ 0.31 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมด และร้อยละ 1.65 ของจำนวนเงินทั้งหมดตามลำดับ โดยผลงานที่เกิดขึ้นมาจาก 3 แนวทางที่กองทุนฯ ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

1.เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันชีวิต และบทบาทหน้าที่กองทุนฯ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลสิทธิประโยชน์ ผ่านทุกช่องทางได้แก่ สื่อสารออนไลน์ ผ่าน Website, YouTube, Facebook, Line Official Account สื่อวิทยุ โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์

2.ดำเนินการพัฒนาโปรแกรมเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิของตนเอง ผ่านเว็บไซต์ของกองทุนประกันชีวิต www.lifeif.or.th  

3.บูรณาการกับกรมการปกครอง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจสอบที่อยู่ปัจจุบันของผู้เอาประกันชีวิต ตามข้อมูลผู้มีสิทธิในเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความของกองทุน เพื่อใช้แจ้งสิทธิให้ผู้เอาประกันชีวิตรับทราบอีกด้วย

นายจรัญกล่าวต่อว่า ล่าสุดกองทุนฯ ได้สรุป สถิติการดำเนินงานการจ่ายเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ (คลิกลิ้งค์นี้ https://youtu.be/3WCTsQlkuvE )  คืนผู้มีสิทธิตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปี 2563 จนทำให้ทราบถึงนัยสำคัญการเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานตามหาเจ้าของเงินเพื่อจ่ายคืนเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ กล่าวคือ ปี 2561 จ่ายคืน 2,164,246.37 บาท จำนวน 290 ราย ในปี 2562 จ่ายคืน 4,621,406.91 บาท จำนวน 661 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 127.93 และในปี 2563 จ่ายคืน 8,408,067.92 บาท จำนวน 1,297 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 347.24 โดยคิดจากฐานปี 2561

โดยผลการดำเนินการจาก 3 แนวทางที่ผ่านมาทำให้มีประชาชนทยอยพากันเข้ามารับเงินล่วงพ้นอายุความมากขึ้นตามลำดับดังที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว นอกจากนี้ยังทำให้ได้รับทราบถึงความพึงพอใจของผู้เอาประกันชีวิตที่มีต่อกองทุนฯ และอุตสาหกรรมธุรกิจประกันชีวิตด้วย จากกรณีของ นายสุระ แสนคำ หรือ เขาทราย แกเล็คซี่ ( คลิกลิ้งค์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=8t5Gyd70HfA  ) ซึ่งเขาเคยทำประกันชีวิตไว้ถึง 2 กรมธรรม์ ในช่วงเป็นนักมวยสากลอาชีพระดับแชมป์โลกผ่านเพื่อนที่เป็นตัวแทนประกันชีวิตบริษัทหนึ่ง ต่อมาระยะหนึ่งเพื่อนไม่ได้มาบริการเก็บเงินค่าประกันฯ ต่อ จึงทำให้เขาไม่ได้จ่ายค่าเบี้ยประกันฯ ตั้งแต่นั้นมาและไม่ทราบว่าประกันชีวิตที่ทำไว้ครั้งนั้นมีเงินหรือสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

จนเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 เขาได้รับหนังสือจากกองทุนฯ แจ้งว่ามีสิทธิรับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ เป็นเงินจำนวน 180,240 บาท จึงได้ยื่นคำขอ  และกองทุนฯ ได้โอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีวิตครบถ้วนให้ในเวลาที่รวดเร็ว ทำให้เขาทราบประทับใจต่อการดำเนินการและบริการของกองทุนฯ เป็นอย่างมาก โดยได้เดินทางมาขอบคุณพนักงานเจ้าหน้าที่กันถึงที่ทำการของกองทุนฯ พร้อมจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้เพื่อการศึกษาบุตร และยอมรับว่าการทำประกันชีวิตมีความสำคัญและความจำเป็นกับทุกคน จึงขออาสานำความรู้สึกดีๆ เหล่านี้ไปบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงได้รับรู้คุณประโยชน์จากการทำประกันชีวิต รวมถึงการตรวจสอบสิทธิเงินล่วงพ้นอายุความจากกองทุนประกันชีวิตด้วย