FIBO DEMO DAY เป็นกิจกรรมที่สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อจัดแสดงผลงานการออกแบบแนวคิดและต้นแบบ (ideas & prototypes) ของนักศึกษาฟีโบ้ 3 ชั้นปี โดยชั้นปีที่ 1 หัวข้อ“นวัตกรรมเพื่อสังคมด้านอุตสาหกรรม การเกษตร ความปลอดภัย และการท่องเที่ยว” ชั้นปีที่ 2 หัวข้อ“นวัตกรรมเพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านธุรกิจในภาคธุรกิจค้าปลีก (Retail) การบริการสุขภาพ (Healthcare) และให้บริการต้อนรับรับรองผู้มาเยือน (Hospitality) ซึ่งครอบคลุมธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร การท่องเที่ยว” และหัวข้อ “Waste Renovation ที่ช่วยแก้ปัญหาสังคมด้านการจัดการ Waste”ของนักศึกษา FIBO ปี 3 โดยมีชิ้นงานที่น่าสนใจกว่า 40 ชิ้นงาน อาทิ หุ่นยนต์ทำความสะอาดคอกสุกรอัตโนมัติ, เครื่องยกล้อรถยนต์ระบบขากรรไกรสำหรับศูนย์บริการรถยนต์, เทคโนโลยีขนถ่ายลำเลียงเกลือสำหรับเกษตรกรนาเกลือ, เครื่องแยกส่วนประกอบซากแผงวงจรโทรศัพท์อัตโนมัติเพื่อช่วยผู้ประกอบการธุรกิจกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ลดการส่งออกซากแผงวงจรโทรศัพท์ออกไปจัดการที่ต่างประเทศ, Trash X: นวัตกรรมถังขยะอัจฉริยะที่ช่วยให้สำนักงานเขตบริหารจัดการการเก็บขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เครื่องฟังเสียงวิเคราะห์ระดับความสุกของทุเรียน เป็นต้น
อาจารย์บวรศักดิ์ สกุลเกื้อกูลสุข รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ และประธานหลักสูตรวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ FIBO กล่าวว่า การจัดกิจกรรม FIBO DEMO DAY นี้ เพื่อต้องการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงผลงานให้กับผู้สนใจ ได้พบปะและได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนทั่วไปทั้งผู้ที่เป็นผู้ใช้งานหรือคนที่ไม่ได้อยู่ในสายงานเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ซึ่งการฝึกทักษะเหล่านี้จะเป็นประสบการณ์ให้กับนักศึกษา เพราะการได้นำเสนอ ได้พูดคุยถามตอบ จะทำให้ได้เข้าใจมุมมองของคนทั่วไปเวลาที่เขามองกลับมายังเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และจะทำให้ได้เข้าใจถึงการเป็นวิศวกรหรือนักพัฒนาหุ่นยนต์และ AI ที่ดีในอนาคตมากขึ้น
“เนื่องจากในปีนี้มีรายวิชาของทั้ง 3 ชั้นปีที่มีการทำโปรเจกต์ในธีมหรือหัวข้อที่สอดคล้องไปทิศทางเดียวกัน จึงนับเป็นการนำผลงานของนักศึกษาฟีโบ้ที่ค่อนข้างใหญ่ และเป็นการจัดครั้งแรกหลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นโอกาสที่นักศึกษาแต่ละคนจะได้มีการพูดคุยและแลกไอเดียข้ามชั้นปี รุ่นน้องได้เห็นผลงานของรุ่นพี่ ในอีกรูปแบบหนึ่งที่ต่างไปจากเดิม”
สำหรับแนวคิดในการออกแบบคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมของนักศึกษาทั้ง 3 ชั้นปีครั้งนี้ อาจารย์บวรศักดิ์ กล่าวว่า แม้ฟีโบ้เราสอนเรื่องเทคโนโลยีหุ่นยนต์ และเป้าหมายการเรียนหุ่นยนต์ก็คือต้องสร้างหุ่นยนต์เป็น แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาที่จะแก้ได้ด้วยหุ่นยนต์ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือนักศึกษาต้องเรียนรู้ที่จะพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหา เพราะหลาย ๆ ปัญหาไม่จำเป็นต้องใช้หุ่นยนต์แก้เสมอไป ฉะนั้นการเรียนการสอนที่ฟีโบ้จะเน้นเรื่องของ Design Thinking และใช้ concept นี้ในการฝึกให้นักศึกษาต้องลงไปเข้าใจคนใช้งานจริง ๆ เพราะหน้าที่เราคือเอาความรู้ไปตอบโจทย์คนที่ใช้งาน (user) ไม่ใช่ใส่หรือยัดเยียดเทคโนโลยีแก่ผู้ใช้อย่างเดียว และในการทำงานแต่ละครั้งนักศึกษาจะเจอคำถามจากอาจารย์อยู่ตลอดเวลาและเขาจะต้องหาคำตอบให้ได้ด้วยตนเอง ซึ่งถือเป็นการเรียนการสอนที่แตกต่างจากที่อื่น
“เราจึงต้องปลูกฝังความคิดให้เขาเข้าใจว่า การที่เราจะพัฒนานวัตกรรมสิ่งแรกที่จะทำให้นวัตกรรมรอด คือคนต้องใช้ ถ้าคนไม่ใช้ก็ไม่มีประโยชน์ นักศึกษาฟีโบ้จึงต้องลงพื้นที่จริงเพื่อศึกษาวิจัยและเก็บข้อมูลเชิงลึก เพื่อมาตอบโจทย์คนใช้จริง’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดธีมหรือหัวข้อของนักศึกษาแต่ละชั้นปี และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คือ เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ให้กับนักศึกษาเมื่อได้พบกับผู้ชม (audience) และได้เรียนรู้ว่าผลงานของเขานั้นมีประโยชน์ ใช้ได้จริงแค่ไหนอย่างไร”
และอีกวัตถุประสงค์หนึ่งของการจัดกิจกรรม “โชว์ของ”ของนักศึกษา FIBO ในครั้งนี้ก็คือ การแสดงให้นักเรียนมัธยมซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย ที่มาในงานนี้ได้เห็นผลงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์และ AI มากขึ้น เพื่อเห็นถึงศักยภาพและโอกาสของการเรียนเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ที่สามารถต่อยอดไปสู่งานด้านต่าง ๆ ได้มากมาย
“ต้องยอมรับตรง ๆ ว่า ภาพการเรียนหุ่นยนต์ในประเทศไทยยังมีภาพที่ไม่ชัดเจนมากนักว่า เรียนหุ่นยนต์แล้วทำอะไรได้ บางคนอาจมองว่าเรียนหุ่นยนต์แค่สร้างหุ่นยนต์อย่างเดียว แต่ความจริงแล้วในหุ่นยนต์นั้นมีองค์ความรู้หลากหลายอย่างที่ดึงออกมาใช้แม้เพียงส่วนหนึ่งก็สามารถที่จะสร้างเป็นชิ้นงานได้ จึงอยากให้นักเรียนมัธยมได้มาชม ได้เห็นศักยภาพ (potential) ของการเรียนเทคโนโลยีหุ่นยนต์มากขึ้น” อาจารย์บวรศักดิ์กล่าว
ภูษิณ ประเสริฐสม หรือภู นักศึกษาฟีโบ้ ชั้นปี 1 กล่าวว่า การได้ทำโปรเจกต์งานถือเป็นการเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการลงมือทำ และการเรียนที่ฟีโบ้ เปิดโอกาสให้เราได้ฝึกได้ลงพื้นที่จริง สามารถเก็บข้อมูลมาทำในสิ่งที่ตัวเองสนใจ หรือการได้ฝึกทำงานร่วมกับเพื่อนตั้งแต่เทอมแรก ที่เรียกว่า Project-based learning ก็ทำให้เราได้ความรู้จากเพื่อน ๆ และจากรุ่นพี่ด้วย เพราะคนหนึ่งอาจมีความรู้ด้านหนึ่ง เรามีความรู้อีกด้านหนึ่งก็เอามาแชร์กัน สำหรับกิจกรรมนี้ ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้นำผลงานของทีมมาร่วมจัดแสดง คือ ‘ระบบตรวจเช็คถังดับเพลิงผ่าน Web-App’ เป็นการออกแบบแอปพลิเคชันสำหรับการตรวจเช็คตำแหน่งติดตั้งและระบบของถังดับเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม ที่ใช้ AI มาช่วยวิเคราะห์ แก้ปัญหาถังดับเพลิงถูกละเลยไม่ได้รับการดูแลตรวจสอบ สามารถลดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่และสามารถสรุปผลได้ในทันที ซึ่งแอปพลิเคชันนี้ยังสามารถนำไปต่อยอดขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ เช่น ในโรงพยาบาล หรืออาคารต่าง ๆ ได้อีกด้วย
สำหรับผู้สนใจเรียนวิทยาการหุ่นยนต์ ขณะนี้สถาบันวิทยากรหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) กำลังเปิดรับนักศึกษาใหม่ในหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สามารถติดต่อสมัครเรียนได้ตั้งแต่วันนี้ – 5 ม.ค. 2567 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-2470-9715