ดัน GI Plus  เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรเอกลักษณ์ภาคใต้

320

อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำทีมลงพื้นที่ส่งเสริมสินค้า GI ภาคใต้ มุ่งผลักดันนโยบาย GI Plus ต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าสับปะรดภูเก็ต ติดตามการขึ้นทะเบียน GI ส้มควายภูเก็ต พร้อมเชิญชวนลิ้มลองคุณภาพทุเรียนสาลิกาพังงา

            นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า “กรมทรัพย์สินทางปัญญา ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองชื่อสินค้าท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงให้เป็นสิทธิของชุมชน ภายใต้การขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ซึ่งไม่ใช่แค่สนับสนุนชุมชนให้ได้รับสิทธิการคุ้มครองตามกฎหมายเท่านั้น แต่กรมฯ ยังผลักดันนโยบาย GI Plus ที่จะช่วยพัฒนาสินค้าในด้านต่างๆ เช่น การพัฒนาบรรจุภัณฑ์โดยนักออกแบบมืออาชีพ การต่อยอด GI ด้วยมาตรฐานออแกนิค เป็นต้น การลงพื้นที่จังหวัดพังงาและภูเก็ตในครั้งนี้ก็เพื่อติดตามความคืบหน้าในการส่งเสริมสินค้า GI ใน 2 จังหวัดดังกล่าว”

            ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตมีสินค้า GI จำนวน 2 สินค้า ได้แก่ สับปะรดภูเก็ต (2552) และมุกภูเก็ต (2560) มีสินค้าที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI 1 สินค้า ได้แก่ ส้มควายภูเก็ต โดยจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งปลูกสับปะรดที่มีชื่อเสียงมานาน สับปะรดที่ปลูกเป็นสายพันธุ์ควีน ปลูกในอำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง มีเนื้อหวานกรอบ กลิ่นหอม มีใยน้อย จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมาก มีปริมาณการผลิต 1,200,000 ลูก/ปี สร้างมูลค่าทางการตลาด 33 ล้านบาท/ปี โดยกรมฯ ได้นำแนวทาง GI Plus มาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม ผ่านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์โดยนักออกแบบมือรางวัลระดับประเทศ และร่วมมือกับ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานพันธมิตรของกรมทรัพย์สินทางปัญญา สนับสนุนช่องทางจำหน่ายสินค้า ณ Central Food Hall Porto de Phuket

            ในโอกาสนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้พบกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบางหวานพัฒนา ผู้ผลิตส้มควายภูเก็ต “ส้มควาย” เป็นส้มพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ต ตระกูลเดียวกับ “ส้มแขก” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือขนาดผลใหญ่เนื้อมาก เป็นส้มควายสด พันธุ์ Peduculata ผลทรงกลมขนาดใหญ่ ร่องตื้น เนื้อละเอียด หนา แน่น รสชาติเปรี้ยว นิยมนำส้มควายมาตากแห้ง และบดเป็นผงก่อนนำมาผสมกับน้ำร้อน เพื่อแช่เท้า ลดอาการปวดเมื่อย อาการเท้าบวม ได้เป็นอย่างดี ปลูกและแปรรูปในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ อำเภอเมืองภูเก็ต อำเภอกะทู้ และอำเภอถลาง ทั้งนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมในคำขอเพื่อให้สามารถขึ้นทะเบียนคุ้มครองส้มควายภูเก็ตเป็นสินค้า GI ไทยได้ ซึ่งนับเป็นหนึ่งสินค้าที่มีเอกลักษณ์ซึ่งหาที่อื่นไม่ได้ สำหรับจังหวัดพังงามีสินค้า GI จำนวน 2 สินค้า ได้แก่ ทุเรียนสาลิกาพังงา (2561) และข้าวไร่ดอกข่าพังงา (2563) มีสินค้าที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI 1 สินค้า ได้แก่ มังคุดทิพย์พังงา

            นายวุฒิไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทุเรียนสาลิกาพังงาเป็นอีกหนึ่งสินค้าสำคัญของจังหวัดพังงา เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกเฉพาะในอำเภอกะปง มีผลทรงกลมขนาดค่อนข้างเล็กประมาณ 1.5 – 2.0 กิโลกรัม/ลูก เนื้อหนาละเอียดสีเหลืองเข้ม กลิ่มหอม รสชาติหวาน แกนกลางเปลือกทุเรียนจะมีสีสนิมแดง

            คำว่า “สาลิกา” เป็นชื่อพันธุ์ที่คนท้องถิ่นใช้เปรียบเปรยความอร่อย เหมือนดังจะงอยปากของนกสาลิกาที่มีเสียงไพเราะ มีต้นดั้งเดิมที่อายุมากกว่า 100 ปี ยังคงยืนต้นและให้ผลดกอยู่ จึงอยากเชิญชวนให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองรสชาติทุเรียนใต้แท้ๆ ที่มีผลผลิตเพียงปีละครั้ง ซึ่งในปีนี้ผลผลิตจะเริ่มออกช่วงเดือนมิถุนายน 2566 สามารถสั่งจองล่วงหน้า โทร. 0972409047 หรือ Line @Petcharapornfarm”