ชาวหลักหกยื่นฟ้อง 6 หน่วยงานถมคลองเปรมประชากร

661

เมื่อวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 นายภาณุเมศวร์ ศิรินรานันตร์  พร้อมประชาชนในพื้นที่ตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี  จำนวนหลายสิบคนได้เดินทางไปยังศาลปกครองกลาง ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เพื่อยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อ 6 หน่วยงานรัฐ ได้แก่  สถาบันพัฒนาองค์การชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช.  กรมโยธาธิการและผังเมือง  กรมธนารักษ์  เทศบาลตำบลหลักหก  สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด และ กรมชลประทาน  ในกรณีการถมคลองเปรมประชากรเพื่อก่อสร้างบ้านมั่นคง

          การฟ้องต่อศาลปกครองครั้งนี้มีชาวหลักหกจำนวน 130 คนได้ร่วมลงชื่อให้ดำเนินคดีต่อ 6 หน่วยงานดังกล่าว  ด้วยเหตุผลหลักประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 ไม่ได้รับอนุญาตจากกรมศิลปกร และกรมเจ้าท่า ให้ถมดินและตอกเสาเข็มลงสู่คลองเปรมประชากรเพื่อขยายพื้นที่ก่อสร้างเขื่อนและบ้านตามโครงการ  ทั้งไม่จัดให้มีการทำประชาพิจารณ์ รับฟังความเห็นของประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่บริเวณริมคลองเปรมประชากร และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง

          ประเด็นที่ 2 คลองเปรมประชากร เป็นอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้หรือสงวนไว้เพื่อประโยชน์ของพลเมืองใช้ร่วมกัน  แต่กรมธนารักษ์กลับนำที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไปให้สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด เช่าทำประโยชน์ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการต้องห้ามชัดแจ้ง

          ประเด็นที่ 3  เทศบาลตำบลหลักหกเป็นหน่วยงานเจ้าของพื้นมีหน้าที่คุ้มครอง ดูแล และบํารุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  รวมถึงทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน  การจัดการผังเมือง ตามพระราชบัญญัติสภาและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537  แต่กลับเพิกเฉยไม่กำกับดูแลให้ถูกต้องตามกฎหมาย  ทั้งยังได้อนุญาตให้สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด  ดำเนินการก่อสร้างบ้านและถมดินลงสู่คลองเปรมประชากร  การกระทำของเทศบาลตำบลหลักหกเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้ประชาชนผู้อาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากรและผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหาย

          ประเด็นที่ 4 คลองเปรมประชากรในเขตพื้นที่จังหวัดปทุมธานีอยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน โดยมีหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการชลประทาน พุทธศักราช 2485   แต่กลับปล่อยปละละเลยหน้าที่ให้ทำการถมคลอง หรือการจัดให้มีสิ่งปลูกสร้างในคลอง ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การชลประทาน ไม่เป็นไปเพื่อสาธารณประโยชน์ให้ประชาชนใช้ร่วมกัน และไม่มีการปิดประกาศแต่อย่างใด   เป็นการละเว้นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย   ปล่อยให้อีก 5 หน่วยงานร่วมกันถมคลองเปรมประชากร  กระทำการรุกล้ำที่สาธารณประโยชน์ รุกล้ำที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน  สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งกลางคลอง ปลูกสร้างบ้านในที่สาธารณประโยชน์ใช้ร่วมกันซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

          ผู้ฟ้องคดีจึงขอให้ศาลพิจารณาดังต่อไปนี้ 1. ขอให้มีคำสั่งให้ พอช. และ สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด  ระงับการก่อสร้างบ้านตามโครงการก่อสร้างบ้านริมคลองเปรมประชากร ระยะที่2  และให้กรมโยธาธิการและผังเมือง  ระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งกลางคลองเปรมประชากร จากคลองบ้านใหม่ถึงคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ระยะที่ 2

          2. ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของ เทศบาลตำบลหลักหก  ที่อนุญาตให้ก่อสร้างบ้านตามโครงการดังกล่าวของสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด  และเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างเลขที่ 96/2563

          3. ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาเช่าระหว่าง  กรมธนารักษ์ผู้ให้เช่า กับ สหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงชุมชนวัดรังสิต จำกัด ผู้เช่า ตามหนังสือสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ทะเบียนราชพัสดุที่ ปท. 796 เนื้อที่ประมาณ 22 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา

          4. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ พอช.  กรมโยธาธิการฯ  เทศบาลตำบลหลักหก และสหกรณ์ฯ  รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ล่วงล้ำคลองเปรมประชากร ระยะที่ 2 ปรับสภาพคลองเปรมประชากรให้กลับสู่สภาพเดิม และฟื้นฟูสภาพลำคลองให้มีขีดความสามารถในการระบายน้ำเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม

          5. ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ พอช.  กรมโยธาธิการและผังเมือง  กรมธนารักษ์  เทศบาลตำบลหลักหก  และกรมชลประทาน จัดทำมาตรการเพื่อรองรับและดูแลประชาชนที่เคยอาศัยอยู่ริมคลองเปรมประชากร โดยการจัดการก่อสร้างหรือทำโครงการต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน สภาพแวดล้อม สุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต โดยให้ประชาชนและชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงมีส่วนร่วมในการกำหนดแนวทางการจัดการที่อยู่ร่วมกันได้

           6. ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาเช่าระหว่าง กรมธนารักษ์ ผู้ให้เช่า กับผู้เช่ารายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างบ้านมั่นคงในพื้นที่คลองเปรมประชากร ทั้งในเขตพื้นที่ปทุมธานี และที่เกี่ยวข้องตลอดแนวคลองเปรมประชากร ระยะทางรวม 50.80 กิโลเมตร เพื่อรักษาความกว้างของคลองเปรมประชากรไว้ที่ 50 เมตร

          7. ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งทางปกครองที่อยู่ภายใต้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและมนุษย์  กระทรวงการคลัง  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ต้องปฏิบัติตามแผนแม่บทโครงสร้างพื้นฐานระบบคลองประชากร และมีความเกี่ยวข้องกับการรุกล้ำคลองเปรมประชากร ตลอดแนวคลองเปรมประชากร ระยะทางรวม 50.80 กิโลเมตร เพื่อรักษาความกว้างคลองเปรมประชากรไว้ที่ 50 เมตร