รองนายกฯ ดึงผู้นำธุรกิจเอกชน ประกาศร่วมผลักดันไทยเป็นเจ้าภาพ Expo 2028 Phuket Thailand

325

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วมผู้นำภาคเอกชนไทย จัดประชุมความร่วมมือในการสนับสนุนประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand โค้งสุดท้ายก่อนชิงชัยกับอีก 4 ประเทศในเดือนมิถุนายนนี้

“การประชุมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการสนับสนุนประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand” จัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงแนวทางความร่วมมือในการสนับสนุนประเทศไทยผ่านเครือข่ายทางธุรกิจของเอกชนในต่างประเทศ เพื่อให้สนับสนุนการเสนอตัวของประเทศไทย สร้างความเชื่อมั่นให้แก่คณะกรรมการจากองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions หรือ BIE) และการลงคะแนนเสียงจากประเทศสมาชิก 171 ประเทศ ตลอดจนร่วมกันประชาสัมพันธ์การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของประเทศไทยให้คนไทยทั่วประเทศรวมใจเป็นหนึ่งเดียวร่วมสนับสนุนการชิงชัยครั้งนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand (Thailand Candidature Committee) กล่าวเปิดการประชุมสร้างความมั่นใจให้ผู้นำภาคเอกชนถึงการสนับสนุนอย่างเต็มที่ของรัฐบาลไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ภายใต้กรอบงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วกว่า 4,180 ล้านบาท พร้อมชี้ประโยชน์สำคัญ 4 ด้านหลักที่ประเทศไทยจะได้รับหากได้รับสิทธิการจัดงาน คือ 1. ด้านเศรษฐกิจ จะมีเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในประเทศจากนักเดินทางทั้งคนไทยและต่างชาติรวมกว่า 4.92 ล้านคนจาก 106 ประเทศ มีเงินสะพัดกว่า 49,231 ล้านบาท และมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มากกว่า 39,357 ล้านบาท 2. ด้านการพัฒนาเมือง ของจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดในกลุ่มอันดามันคลัสเตอร์ ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสุราษฎร์ธานี รวมถึงโอกาสการกระจายรายได้ของนักเดินทางต่างชาติในการจับจ่ายใช้สอยไปยังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 3. ด้านการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในการเป็นจุดหมายปลายทางด้าน “ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ หรือ Medical Hub ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้” โดยจะก้าวสู่การเป็น “ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก” ช่วยยกระดับทุกพื้นที่ทั่วประเทศให้เป็นเมืองด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 4. ด้านการบริหารและพัฒนาพื้นที่หลังการจัดงาน ในกรณีของจังหวัดภูเก็ต พื้นที่ อาคาร และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด จะพัฒนาเป็นศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร ศูนย์อภิบาลผู้สูงอายุนานาชาติ ศูนย์ใจรักษ์ และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร ซึ่งก่อให้เกิดการพัฒนาทั้งด้านการแพทย์ สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี ภายใต้การดูแลของโรงพยาบาลวชิระ ภูเก็ต นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นศูนย์ประชุมนานาชาติ และ Ecological Park อีกด้วย

ด้านนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ นำเสนอความคืบหน้าในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand ต่อที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงจากสมาคมและหน่วยงานหลักของภาคเอกชนไทยที่เข้าร่วมงานในกลุ่มธุรกิจ อาทิ กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มโรงแรม กลุ่มสายการบิน กลุ่มรีเทล และกลุ่มเครื่องดื่ม รวมถึง สภาหอการค้าฯ และสมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมกันสนับสนุนการประมูลสิทธิครั้งนี้ โดย ทีเส็บ ร่วมกับหน่วยงานไทยทีม ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เร่งดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของประเทศไทย ทั้งในและต่างประเทศ โดยกิจกรรมสำคัญที่จะจัดขึ้นต่อไป คือ “การจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand Symposia” เชิญกลุ่มเป้าหมายคณะกรรมการและประเทศสมาชิก BIE เข้าร่วมงาน เพื่อรับฟังข้อมูลแนวคิดหลัก และจุดยืนของประเทศไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ พร้อมทั้งนำเสนอศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตและประเทศไทยในการจัดงานภายใต้แนวคิด “Future of Life: Living in Harmony, Sharing Prosperity”  หรือชีวิตแห่งอนาคต แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อมุ่งเน้นการเป็นเวทีระดับโลกในการแบ่งปันประสบการณ์และสนับสนุนให้ประเทศผู้เข้าร่วมงานได้แสดงนโยบายและนวัตกรรมที่จะนำไปสู่การสร้างความยั่งยืนร่วมกัน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแล ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด ESG หรือสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) โดยจะมีการจัดงานขึ้นในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 

ภาคเอกชนไทยร่วมใจพร้อมสนับสนุนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket Thailand เช่น หอการค้าไทยจัดประชุมชี้แจงความพร้อม และหารือแนวทางการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ร่วมกับ หอการค้าจังหวัด สมาคมการค้า และกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC ทั่วประเทศ กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ณ ไอคอนสยาม และสยามพารากอน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านตู้เอทีเอ็มทั่วประเทศ   เอสซีจี สนับสนุนการผลิตและเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

ปัจจุบัน ประเทศไทยได้ผ่านการประเมินความพร้อมจากคณะกรรมการ BIE และอยู่ระหว่างการหาเสียงพร้อมกับประเทศคู่แข่งอีก 4 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา เซอร์เบีย สเปน และอาร์เจนติน่า ซึ่งผู้แทนจากประเทศสมาชิก BIE 171 ประเทศ จะคัดเลือกประเทศเจ้าภาพการจัดงานและจะประกาศผลประเทศที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพในเดือนมิถุนายนปีนี้ และหากประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้ นับเป็นการจัดงานเอ็กซ์โประดับโลกครั้งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้