รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นอธิการบดีหญิงคนแรกของมหาวิทยาลัย เข้ารับรางวัลนักวิชาชีพสตรีตัวอย่าง ส่วนกลาง ภาคเอกชนจากสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ปี พ.ศ. 2561 เนื่องด้วยเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีความรู้ความสามารถและมีภาวะผู้นำสูง มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในฐานะนักบริหารและนักเศรษฐศาสตร์ทีได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จนได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในหน่วยงานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ อาทิเช่น กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , คณะกรรมการ National Startup Committee , ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเศรษฐกิจในคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม รวมทั้งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย , กรรมการกำกัดนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย และอื่น ๆ อีกมากมาย ในด้านผลงานวิชาการได้ทำวิจัยเรื่องการคอร์รัปชั่นในวงราชการ และจัดทำดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยเพื่อกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวในการต่อต้านการคอร์รัปชั่นในประเทศไทย เป็นผู้ริเริ่มให้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดทำดัชนีด้านเศรษฐกิจต่างๆ ผ่านศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัย ดัชนีสำคัญอันเป็นข้อมูลอ้างอิง ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ดัชนีความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทย เป็นต้น
ในฐานะอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของหอการค้าไทย อันมีพันธกิจที่สำคัญนอกเหนือจากการสร้างบัณฑิตเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจแล้วยังได้นำพามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยให้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมพันธกิจของหอการค้าไทย เพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอกการธุรกิจไทยโดยจัดทำโครงการสำคัญหลายด้าน เช่น การสร้างผู้ประกอบการ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ Innovation Driven Entrepreneurship: IDE ร่วมกับมหาวิทยาลัยเอ็มไอทีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลักสูตรนี้ได้รับเกียรติจากนักธุรกิจระดับประเทศละผู้เชี่ยวชาญมากมาย มาเป็นวิทยากรและพี่เลี้ยงเพื่อสร้างการสร้างนักรบเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทย เป็นผู้ริเริ่มเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านอีคอมเมิร์ชให้กับนักศึกษาและผู้ประกอบการเอมเอ็มอีไทย โดยจับมือกับพันธมิตร เช่น อาลีบาบา เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ในด้าน CSR ได้จัดทำโครงการ 1 ไร่ 1 แสน เพื่อช่วยเกษตรกรในการลดความเหลื่อมล้ำของประเทศจนได้เป็นโครงการต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังเน้นย้ำเรื่องการส่งเสริมการมีศีลธรรมให้แก่เยาวชนโดยจัดการแสดงธรรมและอบรมปฏิบัติธรรมในโอกาสวันสำคัญทางศาสนาและตามวาระอันควร เพื่อเป็นการส่งเสริมกล่อมเกลาจิตใจให้เยาวชนเป็นคนดีของประเทศสืบต่อไป