ถือเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ส่งผลให้ Carsome กลายเป็นบริษัท เทคยูนิคอร์นที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย
Carsome คือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับซื้อขายรถยนต์มือสองแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยดำเนินการอยู่ใน ประเทศมาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ไทย และ สิงคโปร์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถยนต์ มือสองในภูมิภาคให้เป็นดิจิทัล โดยการปรับโฉมและยกระดับประสบการณ์ในการซื้อและขายรถยนต์
การระดมทุนครั้งล่าสุด หรือ Series D2 เป็นการระดมทุนเพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์การควบรวมกิจการและพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจเสริมด้านการเงิน โดย Carsome Group (Carsome) ประกาศปิดการระดมทุนสำหรับ Series D2 มูลค่ากว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่าถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมควบตำแหน่งบริษัทเทคยูนิคอร์นที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย และยังได้รับวงเงินสินเชื่อใหม่อีก 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้เงินทุนทั้งหมดเพิ่มขึ้นถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ
การระดมทุนรอบ D2 นับเป็นการลงทุนด้านตราสารทุนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Carsome โดยมีการร่วมทุนจากกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Funds) ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และยังมีกลุ่มนักลงทุนต่างชาติรายใหม่ เช่น Catcha Group และ MediaTek ตลอดจนการมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม
ผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ Asia Partners, Gobi Partners, 500 Southeast Asia, Ondine Capital, MUFG Innovation Partners, Daiwa PI Partners และอื่นๆ โดยมี Rothschild & Co ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ Carsome สำหรับข้อตกลงครั้งนี้
เอริค เฉิง ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Carsome กล่าวถึงการระดมทุนครั้งล่าสุดนี้ว่าเป็นตัวช่วยเร่งให้บริษัทสามารถเติบโตแบบออร์แกนิก (สร้างจุดแข็งและเติบโตจากภายใน) ในธุรกิจค้าปลีกและสินเชื่อรถยนต์
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับกำลังใจจากความเชื่อมั่น และการสนับสนุนจากนักลงทุนของเรา เราพร้อมแล้วที่จะก้าวไปอีกขั้น เพื่อการเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายรถยนต์มือสองแบบครบวงจรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจของเรา” เฉิงกล่าวเสริม
การระดมทุนของ Carsome ครั้งล่าสุดนี้ มุ่งเน้นกลยุทธ์ในการเติบโตและขยายไลน์ธุรกิจ B2C หรือ การส่งมอบสินค้า/บริการจากธุรกิจสู่ลูกค้าผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งในปีนี้ Carsome ได้ทำการเปิดศูนย์บริการลูกค้ารายย่อยอย่างน้อย 7 แห่งในนาม Carsome Experience Centers ทั่วมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย และยังมีอีกหลายแห่งที่อยู่ในขั้นตอนการดำเนินงาน นอกจากนี้ ยังได้เปิดศูนย์ปรับสภาพรถยนต์ของตัวเองเป็นแห่งแรกในมาเลเซีย เพื่อเพิ่มบริการแก่ลูกค้ารายย่อยและเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค สำหรับรถยนต์ที่มีการรับรองจาก Carsome (Carsome Certified)
การอัดฉีดเงินทุนครั้งนี้ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มความหลากหลายในส่วนงานบริการของ Carsome ด้านการให้สินเชื่อรถยนต์สำหรับผู้ซื้อรถยนต์และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสอง โดยเมื่อไม่นานมานี้ Carsome ได้เพิ่มบริการสินเชื่อรถยนต์สำหรับผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาที่มักจะเผชิญกับความท้าทายในการขออนุมัติสินเชื่อจากธนาคารทั่วไป
นอกเหนือจากการผลักดันธุรกิจ B2C แล้ว การระดมทุน Series D2 ของ Carsome ยังเป็นการส่งเสริมความสามารถในการลงทุนเชิงกลยุทธ์ตลอดจนการควบรวมกิจการ โดยในปีนี้ Carsome ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท PT Universal Collection ซึ่งให้บริการด้านการประมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และยังเข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ iCar Asia แพลตฟอร์มยานยนต์ชั้นนำสำหรับซื้อขายรถและผู้นำด้านสื่อเกี่ยวกับยานยนต์ ความร่วมมือดังกล่าวเพื่อการสร้างระบบนิเวศด้านยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่าจะมีธุรกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้นมากในอีก 6 เดือนข้างหน้า
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับ Carsome เพื่อสร้างระบบนิเวศยานยนต์ที่ดีที่สุด และครอบคลุมที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจุดแข็งและประสบการณ์ของเราทั่วภูมิภาคนี้ เรามั่นใจว่าเราจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและคงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ในขณะที่เราขยายตัวทั้งในแนวราบและแนวดิ่ง” แพทริค โกรฟ ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอของกลุ่ม Catcha Group กล่าว
โอลิเวอร์ เอ็ม ริปเปล ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนของ Asia Partners กล่าวเสริมว่า “ภารกิจของเราคือการลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีที่พลิกโฉมระบบเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทีมผู้บริหารที่ยอดเยี่ยมของ Carsome กำลังขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ด้วยโมเดลธุรกิจที่ขยายตัวได้ และเราก็จะร่วมลงทุนต่อไปเพราะเราเชื่อมั่นว่ารูปแบบการดำเนินงานแบบครบวงจรและเชื่อถือได้ของ Carsome จะทำให้บริษัทฯเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวไปสู่การเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค”
โทมัส จี เซา ผู้ร่วมก่อตั้ง Gobi Partners ซึ่งร่วมลงทุนกับ Carsome มาอย่างยาวนานกล่าวเสริมว่า “Carsome คืออันดับ 1 ในตลาด สามารถทำกำไรจากการดำเนินกิจการ, สร้างทีมผู้บริหารระดับโลก และยังพลิกโฉมการซื้อขายรถยนต์ที่เคยมีมา ตั้งแต่ปี 2558 Gobi ภูมิใจที่ได้เข้าร่วมทุนกับ Carsome ถึง 5 ครั้งด้วยกัน และเราจะสนับสนุนภารกิจของ Carsome ในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของอุตสาหกรรมรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป”
ปัจจุบัน Carsome มีธุรกรรมการซื้อขายรถยนต์มากกว่า 100,000 คันต่อปี ซึ่งคิดเป็นรายได้ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีพนักงานมากกว่า 1,700 คนในสำนักงานทั่วภูมิภาค