นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 68ปีที่ผ่านมาได้มุ่งมั่นในการสร้างความสุขและรอยยิ้มแก่ทุกคน พร้อมดำเนินธุรกิจด้วยความโดดเด่น ทั้งในด้านของการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายและแตกต่างด้วยนวัตกรรมสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์อีกทั้งยังเป็นองค์กรที่มีความทันสมัยเป็นสากลโดยมีการขยายตลาดไปในหลายประเทศ ในโลกที่พฤติกรรมของลูกค้ามีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจากปัจจัยด้านความล้ำสมัยในยุคดิจิทัล บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาพร้อมผลักดันพลังแห่งความเป็นตัวตนให้เด่นชัดมากขึ้นอีกครั้ง ด้วยการปรับภาพลักษณ์องค์กรครั้งใหญ่ (Brightening the Brand) ในรอบ 15 ปี ให้มีความสดใส ทันสมัย และเป็นสากลมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายใต้สโลแกน “Happiness Means Everything: เพราะความสุขคือทุกอย่าง” พร้อมตอกย้ำจุดยืนนโยบาย “MTL Everyday Life Partner” ที่พร้อมเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต
โดยต่อจากนี้ จะยังคงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ กระบวนการทำงาน และการให้บริการ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายในรูปแบบเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ยกระดับองค์กรสู่ความเป็นสากล ทันสมัย และสามารถรับมือกับโลกยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า รวมถึงได้นำระบบกระบวนการทำงานอัตโนมัติ (Robotic Process Automation หรือ RPA) เพื่อให้การทำงานเป็นแบบอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้บริษัทฯ ได้มีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายสถานพยาบาล ห้างสรรพสินค้า รวมไปถึงพันธมิตรในตลาดอีคอมเมิร์ซ และพันธมิตรในกลุ่มสตาร์ทอัพด้าน InsureTech หรือ HealthTech มาช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างเข้าถึง
สำหรับการ Brightening the Brand ครั้งนี้ นอกจากจะได้เห็นตัวตนที่ชัดเจนขึ้นแล้ว ยังจะได้เห็นภาพลักษณ์ใหม่ผ่านโลโก้ ที่มีรูปลักษณ์โค้งมน และสื่อสารผ่านสีที่หลากหลาย เพื่อสื่อถึงความสดใส เข้าถึงง่าย สร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อมุ่งผลักดันให้บริษัทฯ เป็นองค์กรยุคใหม่ ที่พร้อมขยายธุรกิจและฐานลูกค้าออกไปสู่ตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดตัวสัญลักษณ์แห่งความสุข หรือ “Celebration (เซเลเบรชัน)” เข้ามาเพื่อตอกย้ำตัวตนมากขึ้น โดยมีความหมายแสดงถึง “การปกป้องดูแล” ที่จะติดตามไปทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำตลาดในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพที่โดดเด่นด้านนวัตกรรม สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและตรงจุด โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “เอ็กซ์ตร้า แคร์ พลัส” ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย โดยเป็นการท็อปอัพจากสวัสดิการหรือประกันสุขภาพที่มี จึงช่วยให้เบี้ยประกันภัยถูกกว่าความคุ้มครองสุขภาพทั่วไป เพราะจ่ายเบี้ยเพียงหลักพัน 1.แต่ได้ความคุ้มครองสูงถึงหลักแสน เลือกค่าห้องได้สูงสุด 8,000 บาท/วัน 2. โดยลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลได้สูงสุดถึง 400,000 บาท/ครั้ง 3. ไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อเข้ารับการรักษากับสถานพยาบาลในเครือข่ายกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ พร้อมนำเบี้ยประกันภัยไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ขณะที่ในด้านการบริการของเมืองไทยประกันชีวิตได้พัฒนาและผสมผสานรูปแบบของการบริการ ทั้งเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ การบริการผ่านระบบ Digital และ Non Digital ทั้งรูปแบบการบริการเชิงรับและเชิงรุก เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการทั้ง Self Service และ Human Touch ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุก Journey ของลูกค้า ผ่านโมเดลการให้บริการที่เรียกว่า “MTL Smile Service” ประกอบด้วย “MTL Smile Care” “เมืองไทย Smile Club” “MTL Smile Tech” และ “MTL Smile Touch”เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า นับตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าสนใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ทุกกระบวนการนำเสนอ ตลอดจนการส่งมอบบริการหลังการขายอย่างเป็นเลิศให้กับลูกค้า นับจากวันแรกตลอดจนช่วงชีวิตของลูกค้าและที่พิเศษสุด กับการ Brightening “เมืองไทย Smile Club” ต้นตำรับกิจกรรมเพื่อความสุขและรอยยิ้ม ภายใต้ภาพลักษณ์ใหม่ที่เข้มข้นไปด้วยกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ที่ถูกสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าในทุกๆ มิติ มีการพัฒนาด้าน Innovation Trend, Personal Life และไลฟ์สไตล์ ต่างๆ รวมถึงกระบวนการพัฒนาเรื่องของ Ecosystem ในการผนึกกำลังกับพันธมิตรให้มีความแข็งแรง และตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุด ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ในชื่อ “MTL Smile App” เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริการดูแลลูกค้าและตอบสนองความต้องการในยุคดิจิทัล แอปพลิเคชันใหม่ สามารถให้ลูกค้าดู Portfolio ของตนได้ โดยแบ่งตามรูปแบบของผลิตภัณฑ์เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย โดยเห็นภาพรวมความคุ้มครองและการลงทุนของตนเอง อีกทั้งลูกค้าสามารถทำบริการผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นการเคลม ติดตามผล ดูประวัติการเคลม ชำระเบี้ยประกันภัย ขอเอกสารต่าง ๆ เช่น หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย รวมถึงฟังก์ชัน “My Health Care” ที่สามารถหาโรงพยาบาลคู่สัญญาที่สามารถใช้สิทธิความคุ้มครองสุขภาพที่ใกล้ลูกค้ามากที่สุด และการพบแพทย์ผ่าน Virtual Hospital สำหรับประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม ที่ปัจจุบันทำร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช โดยที่ผู้มีประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มกับเมืองไทยประกันชีวิตสามารถปรึกษาแพทย์และรับยาตามสิทธิที่ได้เสมือนการพบแพทย์ผ่านโรงพยาบาลแอปพลิเคชัน “MTL Smile App” ยังสามารถให้บริการด้านการขอเงินกู้ตามสิทธิของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีมูลค่าเงินสดและส่งตรงเข้าถึงบัญชีของลูกค้า และเหล่านี้คือบริการเบื้องต้นที่ “MTL Smile App” สามารถทำได้ และการพัฒนาจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการออกฟังก์ชันใหม่เพื่อตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยบริการถัดมาที่จะเกิดขึ้นภายในปีนี้คือบริการ “Smile Club” สำหรับการบริหารจัดการคะแนนสมาชิกและบริการเสริมต่างๆ ที่เมืองไทย Smile Club มีให้กับลูกค้า