‘เจนเนอราลี่’ ร่วมกับ ‘เกียรตินาคินภัทร’ ออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ คุ้มครองโรคร้าย-ชดเชยนอนโรงพยาบาล

454

เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต ร่วมกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร เดินหน้าออก 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมภายใต้สัญญาประกันชีวิต ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ กับ “KKPGEN CI CARE PLUS” สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครอง 32 โรคร้ายแรงและ “KKPGEN HB CARE PLUS” สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารักษาในโรงพยาบาล สูงสุด 4,000 บาทต่อวัน

            นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันวินาศภัยผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) ร่วมกันมากว่า 7 ปี เจนเนอราลี่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าของทางธนาคารฯ ทั้งประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) และอีกมากมาย ซึ่งเจนเนอราลี่ ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก            เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วนยิ่งขึ้น จึงได้นำเสนอความคุ้มครองใหม่ในรูปแบบของสัญญาเพิ่มเติมเพื่อเป็นทางเลือกในการเติมเต็มแผนความคุ้มครองให้กับกรมธรรม์ประกันชีวิตของลูกค้า ได้แก่ KKPGEN CI CARE PLUS สัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองโรคร้ายแรง ซึ่งเป็นความคุ้มครองแบบ เจอ จ่าย จบ  เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงตามเงื่อนไขที่กรมธรรม์กำหนด บริษัทฯ จะจ่ายผลประโยชน์ตามจำนวนเงินเอาประกันภัยโดยครอบคลุม 32 โรคร้ายจากกลุ่มโรคที่พบบ่อยและมีค่ารักษาค่อนข้างสูง เช่น                   กลุ่มโรคมะเร็งและเนื้องอก กลุ่มโรคหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ โรคไตวายเรื้อรัง รวมไปถึงการบาดเจ็บรุนแรงและทุพพลภาพ ส่วน KKPGEN HB CARE PLUS สัญญาเพิ่มเติมค่าชดเชยรายวันกรณีเข้ารักษาในโรงพยาบาล เป็นการจ่ายค่าชดเชยรายวันกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเจ็บป่วยและนอนพักรักษาในโรงพยาบาล โดยมี 8 แผนความคุ้มครองให้เลือกสมัคร ซึ่งแผนสูงสุดจะจ่ายค่าชดเชยรายวัน จำนวน 4,000 บาท/วัน ตามจำนวนวันที่เข้ารักษาสูงสุด 365 วันต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง และในกรณีเข้ารักษาในห้อง ICU รับความคุ้มครองเป็น 2 เท่า สูงสุด 7 วัน ต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง”

            ด้านนายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารฯ พยายามที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าอยู่เสมอ โดยเฉพาะความคุ้มครองด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน ลูกค้าบางกลุ่มอาจจะมีประกันสุขภาพหรือสวัสดิการพนักงานที่มีผลประโยชน์ด้านค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้วส่วนหนึ่ง แต่วงเงินมักไม่ได้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด หรือหากมีกรณีที่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วยการเจ็บป่วยใด ๆ อาจทำให้ขาดรายได้ในขณะที่กำลังมีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมทั้งสองแบบนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวได้ อีกทั้งเมื่อมองในแง่ของการวางแผนทางการเงิน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยส่งเสริมลูกค้าที่วางแผนทางการเงินกับธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออมเงินหรือส่งต่อความมั่งคั่งให้กับทายาท ควบคู่ไปกับการป้องกันความเสี่ยงอย่างรอบด้าน”

            สำหรับการซื้อสัญญาเพิ่มเติม KKPGEN CI CARE PLUS และ KKPGEN HB CARE PLUS ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเฉพาะแผนความคุ้มครองที่ต้องการได้เพื่อแนบท้ายกรมธรรม์ประกันชีวิตที่บริษัทฯ กำหนด โดยทั้งสองผลิตภัณฑ์สามารถเลือกการชำระเบี้ยได้ทั้งแบบ รายปี/ราย 6 เดือน/ ราย 3 เดือน/รายเดือน ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามงวดการชำระเบี้ยประกันของสัญญาหลักเท่านั้น สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือโทร 02 165 5555

เกี่ยวกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)

            ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร  ที่ประกอบด้วยบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด โดยธนาคารมีวิสัยทัศน์ในการนำทรัพยากรทางการเงินสู่ลูกค้าอย่างถูกต้อง พอเพียงและทั่วถึง ด้วยการบริการที่เหนือความคาดหมายและไม่อาจหาได้จากแหล่งอื่น

            ทั้งนี้ ธุรกิจของธนาคารครอบคลุมสินเชื่อบรรษัท สินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย เช่น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคล ตลอดจนเชื่อมโยงกับธุรกิจด้านตลาดทุน ที่ประกอบด้วยธุรกิจวาณิชธนกิจ (Investment Banking) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (Wealth Management) ธุรกิจการลงทุน (Direct Investment) และธุรกิจจัดการกองทุน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kkpfg.com