“อาหารพร้อมทานแช่แข็ง” มีโอกาสเจาะตลาดจีน

543

“อาหารพร้อมทานแช่แข็ง” คลื่นลูกใหม่ที่กำลังเติบโตและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง DITP เผย มีโอกาสเจาะตลาดจีน ชี้ช่องหาพันธมิตรธุรกิจในจีนและร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารให้มีความเป็นเอกลักษณ์ มั่นใจบูมแน่ ย้ำห้ามลืมเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และการป้องกันโควิด-19  

          นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ มองหาโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ล่าสุดกรมฯ ได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงโอกาสตลาดอาหารพร้อมทานแช่แข็ง ที่มีแนวโน้มเติบโตได้สูงในตลาดจีน และเป็นโอกาสในการขยายการส่งออกอาหารพร้อมทานแช่แข็งเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มมากขึ้น

          โดยในปัจจุบันตลาดอาหารพร้อมทานแช่แข็งในจีน ถือเป็นตลาด Blue Ocean คลื่นลูกใหม่ที่กำลังเติบโตและมีการแข่งขันสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่มีคู่แข่งทางการค้าที่ผูกขาดในตลาดจีน จึงเป็นอีกหนึ่งตลาดใหม่ที่น่าสนใจและเป็นโอกาสทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา รายได้ของธุรกิจอาหารพร้อมทานแช่แข็งในจีนคิดเป็นมูลค่า 31,381 ล้านหยวน (ประมาณ 156,905 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 20 ของธุรกิจอาหารแช่แข็งทั้งหมดในจีน และคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 600,000 ล้านหยวน (3,000,000 ล้านบาท)

          นอกจากนี้ ยังพบว่า เริ่มมีแบรนด์อาหารพร้อมทานแช่แข็งหลากหลายแบรนด์ในจีน ที่เริ่มออกผลิตภัณฑ์เมนูอาหารใหม่ ๆ วางจำหน่ายในตลาดจีน ซึ่งหนึ่งในนั้น มีเมนูอาหารไทย โดยเฉพาะเมนูอาหารต้มยำกุ้ง ซึ่งจะเห็นได้ว่า อาหารไทยมีโอกาสและช่องว่างทางการค้าในจีนอีกมาก ผู้ประกอบการไทยจึงควรสำรวจพฤติกรรมความต้องการบริโภคของผู้บริโภคชาวจีนและแนวโน้มสินค้าในตลาดจีน เพื่อนำสินค้ามาบุกตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรหาพันธมิตรทางธุรกิจในจีนและร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารให้มีความเป็นเอกลักษณ์ มีความแปลกใหม่ หรือผสมผสานความเป็นไทย-จีนเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสามารถเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้มากขึ้น

          ขณะเดียวกัน จะต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันโควิด-19 เพราะในสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงดำเนินต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งอาหารในห่วงโซ่ความเย็นไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญในด้านอาหารปลอดภัยและสุขอนามัยของสินค้า โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการการควบคุมโลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นของจีนอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาด และเพื่อไม่ให้เสียโอกาสและผลประโยชน์ทางการค้า อีกทั้ง ยังควรศึกษากฎระเบียบและเกณฑ์มาตรฐานสาหรับอาหารแช่แข็งของจีน เพื่อขจัดปัญหาข้อจำกัดในด้านการนำเข้าสินค้า

          นางสาวนันท์นภัส งามแม้น ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า หลังจากโควิด-19 ระบาดมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนเปลี่ยนไป เริ่มนิยมรับประทานอาหารพร้อมทานแช่แข็งมากขึ้น และด้วยข้อจำกัดการเดินทางกลับไปหาครอบครัวและเลี้ยงฉลองในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนหันมาเลือกบริโภคเมนูอาหารจัดเลี้ยงตรุษจีนในรูปแบบอาหารพร้อมทานแช่แข็งกันมากขึ้น โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาว ทำให้เมนูอาหารจัดเลี้ยงตรุษจีนในรูปแบบอาหารพร้อมทานแช่แข็งกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในตลาดจีน

            ทั้งนี้ ยังพบว่า ธุรกิจอาหารและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างเริ่มหันมาพัฒนาและวางจำหน่ายอาหารพร้อมทานแช่แข็งกันมากขึ้น โดยใช้ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางการจำหน่าย โดยผู้ประกอบการที่จำหน่าย มีทั้งกลุ่มอาหารแช่แข็งรายเดิม กลุ่มแบรนด์ร้านอาหาร กลุ่มแบรนด์ร้านค้าปลีก กลุ่มแบรนด์ธุรกิจอาหารต้นน้ำ และกลุ่มแบรนด์ธุรกิจเกิดใหม่ จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะเข้าไปสอดแทรกได้ เพราะไทยมีจุดแข็งในการผลิตอาหารอยู่แล้ว

            สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169