อลิอันซ์ อยุธยา รุกตลาดประกันสุขภาพพิชิตเป้า 3.3 หมื่นล้าน

1030

นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรกของปี 2562 สามารถสร้างผลงานได้ดี โดยสามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 1.6 หมื่นล้านบาท  โดยช่องทางตัวแทนยังคงเป็นช่องทางสำคัญที่มียอดเบี้ยประกันภัยรับรวมจากช่องทางนี้ถึง 6.7 พันล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์  4.8 พันล้านบาท และช่องทางขายตรง ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาด 9 ปีติดต่อกัน ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวม 2.4 พันล้านบาท  ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรายปี เติบโต 15 % อยู่ที่  2.8 พันล้านบาท  มาจากช่องทางตัวแทน 1.1 พันล้านบาท ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์  590 ล้านบาท และ ช่องทางขายตรง 964 ล้านบาท

ในช่วงต้นปีนี้ ถือเป็นช่วงที่ตลาดประกันยังมีภาวะชะลอตัวจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยและกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง แต่ทุกช่องทางยังสร้างการเติบโตได้อย่างน่าพอใจ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ มีผลมาจากการดำเนินกลยุทธ์ที่ถูกต้องเหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เน้นขายผลิตภัณฑ์คุ้มครองมาหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสินค้าสุขภาพ ที่ตรงกับต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน สามารถพิชิตเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 3.3 หมื่นล้านบาทได้ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ได้มีการขยายความเป็นพันธมิตรร่วมกับกลุ่ม AYUD หรือ บมจ. ศรีอยุธยา แคปปิตอล (ปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา แคปปิตอล) เพื่อเติบโตธุรกิจตลาดในประเทศไทย โดยเชื่อมั่นว่า การดำเนินงานเป็นหนึ่งเดียวกันของธุรกิจทั้งประกันชีวิตและประกันภัยภายใต้ One Allianz Ayudhya จะทำให้เราสามารถมอบบริการที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า กลุ่มอลิอันซ์ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ประกาศผลประกอบการในภูมิภาคเอเชียสำหรับครึ่งปีแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 โดยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่โดดเด่น (เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว) มีดังนี้ กำไรจากการดำเนินงานโดยรวมทั้งภูมิภาคเพิ่มขึ้น 28% เป็น 260 ล้านยูโร (ประมาณ 9.2 พันล้านบาท) ขณะที่รายรับรวมลดลง 6% อยู่ที่ 3.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 1.13 แสนล้านบาท) กำไรจากการดำเนินในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเพิ่มขึ้น 42% เป็น 205 ล้านยูโร(ประมาณ 7.2 พันล้านบาท) เบี้ยประกันภัยใหม่รับปีแรก (ANP) ลดลง 5% สู่ระดับ 484 ล้านยูโร(ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท) มูลค่าธุรกิจใหม่ (NBV) สำหรับธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพเพิ่มขึ้น 18% แตะ 166 ล้านยูโร(ประมาณ 5.9 พันล้านบาท) รายได้จากธุรกิจประกันวินาศภัยเพิ่มขึ้น 23% เป็น 543 ล้านยูโร(ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท) มีกำไรเพิ่มขึ้น 3% เป็น 40 ล้านยูโร(ประมาณ 1.4 พันล้านบาท)

ด้านนายโซลมาส อัลทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคของ อลิอันซ์ เอเชีย กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรก ธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งโดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจและวินัยในการบริหารค่าใช้จ่ายในไต้หวัน จีนและไทย ช่วยให้ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 42% เป็น 205 ล้านยูโร (ประมาณ 7.2 พันล้านบาท)  การเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงโดยมีส่วนในการเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจใหม่ (NBV) ถึง 18 ล้านยูโร(ประมาณ 636 ล้านบาท)  เป็น 166 ล้านยูโร (ประมาณ 5.86 พันล้านบาท) รายได้รวมในธุรกิจประกันวินาศภัย เพิ่มขึ้น 23% เป็น 543 ล้านยูโร (ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท)  โดยมีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งและผลกระทบเชิงบวกจากธุรกรรมในประเทศจีน ศรีลังกาและไทย กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3% เป็น 40 ล้านยูโร(ประมาณ 1.4 พันล้านบาท) โดยมีการเติบโตของปริมาณเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เนื่องจากการเติบโตในตลาดที่มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ส่งผลให้ Combined Ratio (CoR) เพิ่มขึ้น 1.4bps เป็น 97.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจประกันวินาศภัยในภูมิภาคเอเชีย โดยการเป็นหุ้นส่วนทางกลยุทธ์กับ บริษัท ศรีอยุธยา แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการเติบโตของอลิอันซ์ในประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญต่อประเทศจีนและยังคงมุ่งมั่นให้บริการแก่ฐานลูกค้าดิจิทัลที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของกลยุทธ์การเติบโตในภูมิภาคด้วยการให้ความสำคัญในประเด็นนี้ Allianz JD ซึ่งเป็นหุ้นส่วนประกันภัยใหม่จึงได้ให้บริการแก่ฐานลูกค้าออนไลน์ที่กำลังเติบโตด้วยผลิตภัณฑ์ประกันภัยดิจิทัลในประเทศ  นอกจากนี้ ในประเทศจีน อลิอันซ์ ยังคงดำเนินการเตรียมจัดตั้ง บริษัทโฮลดิ้งที่ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยต่างประเทศรายแรกในธุรกิจที่มีพัฒนาการที่ดี ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ยังคงเสริมความแข็งแกร่งของทีมผู้นำทั่วทั้งภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการเติบโตในภูมิภาคเอเชีย และทำให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง