การท่องเที่ยวฮ่องกง (Hong Kong Tourism Board: HKTB) ประกาศแนวโน้มและสถานการณ์การท่องเที่ยว ประจำปี 2565 ภายใต้แนวคิด “มุ่งสู่ฟ้าใหม่ไปด้วยกัน: Together Towards New Horizons”
ดร. วายเค แปง ประธานการท่องเที่ยวฮ่องกง ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับการกลับไปใช้ชีวิตปกติในฮ่องกงว่า “การระบาดรอบที่ห้านั้นกำลังลดระดับลง” วิถีชีวิตปกติ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในฮ่องกง กำลังค่อยๆ กลับคืนสู่ปกติซึ่งทำให้เราสามารถจัดอีเวนท์ขนาดใหญ่ และเตรียมตัวต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวได้
ในระหว่างที่เกิดโรคระบาดนั้น ฮ่องกงยังคงสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากการที่เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตกหนึ่งในโครงการหลักด้านศิลปะและวัฒนธรรมของฮ่องกง ได้มีการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย M+ ในปีที่แล้ว และยังมีพิพิธภัณฑ์พระราชวังฮ่องกง (Hong Kong Palace Museum) ที่กำลังจะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกในฤดูร้อนนี้ เขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตกพร้อมนำเสนอวัฒนธรรมจากตะวันออกและตะวันตกที่น่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็นศิลปะจากจีน วัตถุโบราณ ไปจนถึงวัฒนธรรมทางภาพร่วมสมัย โดยมอบประสบการณ์ที่ครบวงจรผสมผสานศิลปะและวัฒนธรรมผ่านการค้าปลีก อาหาร และกิจกรรมบันเทิง
ขณะเดียวกันทางวิ่งเครื่องบินลำดับที่สามก็คาดว่าจะให้บริการได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ปฏิรูปท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง จากสนามบินในเมืองให้กลายเป็นเมืองแห่งการบิน (Airport City) โดยการยกระดับตัวเองให้กลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว เมืองแห่งการบินนี้ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยบริการอันหลากหลายตั้งแต่เรื่องการช็อปปิ้ง อาหาร บันเทิง และการพักผ่อน พร้อมทั้งยังมีพื้นที่สำหรับธุรกิจ ด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านการประชุมและนิทรรศการ รวมถึงพัฒนาช่องทางเชื่อมต่อทางน้ำและทางบกเข้ากับเขตเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ด้วยเป้าหมายที่จะมอบการเดินทางที่ไร้รอยต่อสำหรับการมาเยือนเมืองแห่งการบินแห่งนี้”
รวมไปถึงการผสานกันของวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวซึ่งเป็นทิศทางหลักของการท่องเที่ยวฮ่องกงโดย สนามกีฬาไคตั๊ก ในฐานะหนึ่งในสนามกีฬาที่โดดเด่นของฮ่องกงจะสร้างสีสันให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คึกคักของเมือง ด้วยประสบการณ์กีฬาระดับโลก การพักผ่อนหย่อนใจ และความบันเทิง โดยจุดหมายปลายทางด้านกีฬาแห่งแรกและแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนี้จะดึงดูดผู้ชมทั่วโลกมาสู่ฮ่องกงด้วยองค์ประกอบโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ เหล่านี้และการสนับสนุนจากส่วนกลางและรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำให้ฮ่องกงยังคงได้เปรียบในการแข่งขันและสามารถก้าวสู่เส้นทางใหม่ด้วยความมั่นใจ”
สำหรับแผนการทำงานของการท่องเที่ยวฮ่องกงในปีที่จะถึงนี้ นายเดน เฉิง ผู้อำนวยการบริหารการท่องเที่ยวฮ่องกง ได้อธิบายถึงสิ่งที่การท่องเที่ยวฮ่องกงจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกๆ ได้แก่ การสร้างบรรยากาศเชิงบวกของเมือง การกระตุ้นการบริโภค และรักษาสถานะของฮ่องกงในระดับโลกด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “ช็อปปิ้งคลายร้อนที่ฮ่องกง: Hong Kong Summer Treats” ที่จะมีการนำเสนอส่วนลด และโปรโมชั่นหลายประเภท โดยเริ่มต้นด้วยกิจกรม “งานศิลป์ในฮ่องกง: Arts in Hong Kong” แคมเปญที่จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนงานศิลปะนานาชาติ และกิจกรรมด้านวัฒนธรรม อาทิ อาร์ต บาเซิล (Art Basel) ที่กลับมาจัดในรูปแบบออฟไลน์แล้ว
เมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างลง การท่องเที่ยวฮ่องกงจะเริ่มเปิดตัวอีเวนท์ใหญ่ระดับโลกตั้งแต่ เทศกาล Hong Kong Wine & Dine Festival เทศกาล Hong Kong WinterFest รวมถึงให้การสนับสนุนอีเวนท์ที่มีชื่อเสียงอื่นๆ อย่าง Hong Kong Sevens เป็นต้น
นายเดน เฉิง กล่าวถึงความสำคัญในการสร้างความมั่นใจต่อการฟื้นตัวของฮ่องกงเอง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก “กิจกรรมประชาสัมพันธ์เหล่านี้จะช่วยสร้างภาพบรรยากาศเชิงบวกในฮ่องกง รวมถึงนำเสนอภาพการกลับคืนสู่วิถีชีวิตปกติของฮ่องกง การท่องเที่ยวฮ่องกงจะเดินหน้าเปิดตัวกิจกรรมประชาสัมพันธ์ที่ครอบคลุมรอบด้าน รวมไปถึงกลยุทธ์สำคัญอย่างแคมเปญ “เปิดประตูสู่ฮ่องกง: Open House Hong Kong” เพื่อต้อนรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวเมื่อถึงเวลา และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดให้ดียิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นที่จะยกระดับการท่องเที่ยวของผู้ที่มาเยี่ยมเยือนสู่ประสบการณ์ไร้รอยต่อ ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างทั่วถึง”
ทั้งนี้การท่องเที่ยวฮ่องกงได้ทำการวิจัยที่ครอบคลุมถึง 16 ตลาด และพบว่าฮ่องกงนั้นยังคงเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ และยังได้ชี้ถึงปัจจัยหลักที่ทำให้เลือกมาเที่ยวฮ่องกง ได้แก่ ความสะอาด วัฒนธรรมท้องถิ่น ประสบการณ์เชิงลึก อาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเดินทางที่เข้าถึงได้ง่าย และความสะดวกในการสื่อสาร ซึ่งปัจจัยทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแข็งหลักของฮ่องกงเท่านั้นแต่ยังตรงกับเทรนด์ และความนิยมในการท่องเที่ยวยุคหลังโควิดอีกด้วยด้วยรากฐานด้านการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง สถานะของเราในด้านศูนย์กลางของวัฒนธรรมตะวันออกที่มาบรรจบกับตะวันตก เพื่อการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งของฮ่องกง ณ ใจกลางเขตเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (Greater Bay Area) และความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ด้านการท่องเที่ยว ล้วนส่งเสริมให้การอนาคตของการท่องเที่ยวฮ่องกงสามารถพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ