ในช่วงที่ประเทศยักษ์ใหญ่ทั่วโลกต่างประสบวิกฤติเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจของอินเดียกลับเติบโตแบบสวนทาง เนื่องจากอินเดียเน้นการบริโภคภายใน เป็นหนึ่งประเทศที่ถือเป็นเป้าหมายการส่งออกของไทย ธราดล ทองเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย แนะนำว่าการทำการค้ากับอินเดีย แทนที่จะเน้นเพียงการส่งออกจากประเทศไทยเหมือนที่ผ่านมา ควรใช้วืธีการเข้าไปลงทุนในอินเดียโดยตรง โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs หากมีสินค้าผลิตและส่งไปขายในอินเดียอยู่แล้วยิ่งเป็นเรื่องดี เมื่อเห็นว่าสินค้าของท่านเป็นที่ต้องการของตลาด ขอให้ท่านมองอีกช่องทางหนึ่ง เชิญชวนลูกค้าหรือผู้นำเข้าอินเดียให้มาร่วมหุ้นกัน แล้วนำเทคโนโลยี เครื่องจักร รวมถึงโนฮาวที่เรามีเข้าไปทำการผลิตที่อินเดียเลย
“วัตถุดิบของอินเดียแทบทุกอย่างมีเหมือนบ้านเรา ยกตัวอย่างไม้ที่เอามาสลักเป็นแจกัน เราก็เอาเครื่องกลึง เทคโนโลยี ดีไซน์ ไปร่วมทุนกับคนอินเดีย แล้วทำตลาดที่นั่นเลย ข้อดีคือเราไม่ต้องเสียต้นทุนการขนส่ง ไม่ยุ่งยากกับระบบภาษีนำเข้า” คุณธราดล กล่าว.
คุณธราดลยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันทุกประเทศพยายามปกป้องการนำเข้าสินค้า ด้วยการตั้งกำแพงอุปสรรคต่างๆขึ้นมา สินค้าราคาถูกเมื่อนำเข้าไปขายจะกลายเป็นสินค้าราคาแพงทันที เพราะต้องบวกภาษี บวกค่าขนส่ง เมื่อราคาสินค้าแพงก็สู้สินค้าภายในประเทศที่ต้นทุนถูกกว่าไม่ได้ โดยเฉพาะสินค้าเจาะกลุ่มชาวบ้านที่มองราคาเป็นหลัก แต่ถ้าเราเข้าไปผลิตที่นั่นก็หมดปัญหาทันที วิธีการเข้าไปลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็นเมืองใหญ่เท่านั้น เมืองไหนก็ได้ ที่ตรงกับความต้องการของเรา การขนส่งสะดวก มีเครือข่ายเชื่อมกับพื้นที่เป้าหมายในการเจาะตลาด
ขณะที่รัฐบาลอินเดียก็เปิดกว้างด้านการลงทุน ตามนโยบาย เมก อิน อินเดีย ‘Make in India’ หรือ MAK เพื่อผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวเทียบยักษ์ใหญ่อย่างสาธารณรัฐประชาชนจีน ลดขั้นตอนการเข้าไปลงทุนสำหรับคนต่างชาติในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะใน 30 เมือง ที่กำลังผลักดันเป็นสมาร์ทซิตี ซึ่งเป็นผลดีกับกลุ่มธุรกิจ SMEs ของไทยทั้งระดับกลางและระดับเล็กๆ สามารถเข้าไปลงทุนได้ โดยก่อนหน้านี้ธุรกิจขนาดใหญ่หลายกลุ่มเข้าไปบุกเบิกไว้แล้ว อาทิ ซีพี อิตาเลียนไทย ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ ไทยซัมมิท เดลต้า เอสซีจี แพรนด้า จิลเวลรี่ เป็นต้น
ผมอยู่อินเดีย 10 กว่าปี ทั้งอยู่ประจำและไปๆมาๆ มีคนมาหาผมอยากร่วมหุ้นร่วมทุนกับคนไทยจำนวนมาก เพราะชื่อเสียงของสินค้าไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนอินเดียอยู่แล้ว เขามีที่ดิน มีเครือข่าย เราแค่เอาเทคโนโลยีเข้าไป เอาเครื่องจักรตัวเก่าซ่อมให้ดีแล้วเอาไปทำที่โน่นก็ได้ และไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก เช่นคุณมีเงิน 10 ล้านบาท แบ่งไปลงทุนซัก 1-2 ล้านบาท เมื่อมองเห็นช่องทางก็ค่อยขยายการลงทุน
คุณธราดลกล่าวปิดท้ายว่า สินค้าไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่ง หรือสินค้านวัตกรรม ยังเป็นที่ต้องการของคนอินเดียจำนวนมาก เพียงแต่ต้องศึกษาวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ให้ดี เช่นบางพื้นที่นิยมโพกหัว ไม่สวมหมวก เอาหมวกไปขายก็ขายไม่ได้ ส่วนการเจรจาเป็นหุ้นส่วนการค้าต้องเจรจาหลายรอบและต้องอ่านสัญญาให้ละเอียด ถ้าต้องการความช่วยเหลือสำนักงานทูตพาณิชย์ทั้ง 3 แห่ง นิวเดลี มุมไบ และเจนไน พร้อมที่จะตรวจสอบและจับคู่ธุรกิจให้