บีโอไอ จับมือ ยูบีเอ็ม จัดงาน “ซับคอนไทยแลนด์ 2018” สุดยิ่งใหญ่ แสดงศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางอุตฯ รับช่วงการผลิตในภูมิภาค สนองนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ชูไฮไลท์จับคู่ธุรกิจไทยกับนานาประเทศจากทั่วโลก ตั้งเป้าปีนี้จับคู่ธุรกิจ 6,500 คู่ ยอดเงินสะพัดทะลุเป้าไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย พร้อมโชว์นวัตกรรมในงาน
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากทั่วโลกให้เป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายอันดับต้น ๆ ในการเป็นประเทศคู่ค้าในอุตสาหกรรม รับช่วงการผลิตมาโดยตลอด และด้วยความพร้อมในด้านโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลภายใต้ “ประเทศไทย 4.0″ ที่มุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอันจะนำพาประเทศไปสู่ประเทศที่เป็นแหล่งรองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมขั้นสูง บีโอไอจึงมุ่งหวังให้งานซับคอนไทยแลนด์ (SUBCON Thailand) ซึ่งเป็นงานจับคู่ธุรกิจและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนเป็นงานสำคัญในการช่วยพัฒนาและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตของไทยให้พร้อมสู่การพัฒนาเพื่อรับการก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 เช่นกัน
งานซับคอนไทยแลนด์ 2018 ที่จะจัดขึ้นในปีนี้ ประกอบด้วยมีกิจกรรมมากมาย อาทิ งานแสดงนิทรรศการของอุตสาหกรรมสนับสนุนของไทย การจับคู่ธุรกิจ งานสัมมนาเชิงวิชาการ รวมทั้งส่วนจัดแสดงพิเศษโดยผู้ประกอบการไทยในคลัสเตอร์ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ผู้ประกอบการ ผู้พัฒนาระบบอัตโนมัติ (System Integrator – SI) ในกลุ่มออกแบบวิศวกรรม อิเล็กทรอนิคส์ และพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งจะมีการนำเสนอหุ่นยนต์แขนกลที่พัฒนาโดยบริษัทคนไทยอีกด้วย
บีโอไอมั่นใจว่างาน ซับคอนไทยแลนด์ 2018 จะเป็นงานประจำปี (Year event) ที่ผู้ซื้อชิ้นส่วนชั้นนำจากประเทศต่าง ๆ เลือกที่จะปักหมุดให้เป็นงานสำคัญในการทำธุรกิจเพื่อต่อยอดการผลิตได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยปีนี้มีผู้ผลิตชิ้นส่วนทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศตอบรับร่วมแสดงผลงานกว่า 350 คูหา จากกว่า 10 ประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่นและไต้หวันซึ่งจัดแสดงในลักษณะพาวิลเลี่ยน คาดว่าจะมีผู้ซื้อจากทั่วโลกไม่น้อยกว่า 25,000 ราย จากอุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักรกล รวมถึงอุตสาหกรรมในอนาคต อาทิ อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ อากาศยาน อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติและดิจิทัล ซึ่งบีโอไอตั้งเป้าว่างาน ซับคอนไทยแลนด์ 2018 จะก่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ 6,500 คู่ รวมมูลค่าธุรกรรมทางธุรกิจไม่น้อยกว่า 12,000 ล้านบาท
ตัวอย่างผู้ประกอบการชั้นนำที่เข้าร่วมงาน เช่น BMW IPO Sea, DUCATI MOTOR, SIAM KUBOTA, DEDIENNE AEROSPACE, Electrolux Professional, Canon-Hitech Thailand, Whirlpool Corporation, SAMSUNG ELECTRONICS, DAIKIN COMPRESSOR, Taurus International, และ Robert Bosch Automotive Technologies Thailand เข้าร่วมงานนี้
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานบริษัท บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ ทางบีโอไอ ได้ร่วมมือกับ บริษัทยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) และสมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย จัดงานซับคอนไทยแลนด์อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 12 โดยจะจัดงานนี้ในช่วงเวลาเดียวกับงาน อินเตอร์แมค 2018 (INTERMACH 2018) งานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรกลที่รวบรวมนวัตกรรมล่าสุด เพื่อเตรียมตัวรับอุตสาหกรรม 4.0 ภายในงานปีนี้ จะมีโซน “Smart Factory Showcase” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอาเซียน โดยจัดแสดงบนพื้นที่กว่า 400 ตารางเมตร เพื่อสาธิตไลน์การผลิตเต็มรูปแบบภายในโรงงานอัจฉริยะผลิตชิ้นงานจริงด้วยระบบออโตเมชั่น ไร้การควบคุมโดยแรงงานมนุษย์ โซน “Progressive Bending Robot” ครั้งแรกของโลกกับการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องพับ 3 เครื่องกับหุ่นยนต์แขนกลเพียงตัวเดียวผ่านระบบอัตโนมัติ และโซนเทคโนโลยีขั้นสูง “Advanced Technology” ที่พร้อมโชว์นวัตกรรมการพิมพ์โดยเครื่องพิมพ์ 3D ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) ระบบออโตเมชั่น 4.0 รวมทั้งเครื่องวัด 3D และ เทคโนโลยีการเชื่อมล่าสุดกับหุ่นยนต์แขนกล เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังจัดให้มีงานสัมมนาที่เกี่ยวกับธุรกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตทุกภาคส่วนกว่า 100 หัวข้อ ที่ครบถ้วนมากที่สุดตลอดระยะเวลาการจัดงาน ซึ่งถือว่าการจัดงานซับคอนไทยแลนด์คู่ขนานกับงานอินเตอร์แมคเป็นการผนึกกำลังสำคัญเพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
รองศาสตราจารย์ ดร. ชิต เหล่าวัฒนา กรรมการคลัสเตอร์ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย และ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันและในอนาคตอันใกล้ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิต เนื่องจากปัจจัยด้านแรงงาน เวลา และค่าจ้างที่มีขีดจำกัด จึงปฏิเสธไม่ได้ที่ระบบอัตโนมัติจะเข้ามาแทนที่ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำ และมีกำลังการผลิตในปริมาณมาก และต้องใช้เทคโนโลยีเพื่อการผลิตขั้นสูง ให้สอดคล้องกับภาคการผลิตของประเทศไทยที่มุ่งเน้นสู่การพัฒนาไปยังอุตสาหกรรมแห่งอนาคต งานซับคอนไทยแลนด์ ที่จัดร่วมกับงานอินเตอร์แมค นี้จึงเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยที่จะเข้ามาชมความก้าวหน้าที่ครบองค์ความรู้และก้าวทันเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย และ ครบครันที่สุด เพื่อนำมาปรับใช้ในการผลิต สู่การรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้อย่างทันท่วงที
รองศาสตราจารย์ ดร. ชิต ทิ้งท้ายว่า “ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ กลุ่มผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย (TARA) ได้เข้าร่วม กับ งานซับคอนไทยแลนด์ 2018 จัดกิจกรรมในส่วนของการจัดพื้นที่พิเศษขึ้นภายในงาน เพื่อนำเสนอผลงานของผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ในประเทศไทยไว้ด้วยกัน โดยผู้ชมงานจะได้เห็นศักยภาพการควบคุมระบบอัตโนมัติ ในด้านต่างๆ ประกอบไปด้วย รถยกไฟฟ้า หุ่นยนต์ยก และการจัดเรียง-จัดเก็บ และระบบเรียกสินค้าออกจากชั้นวาง ระบบจ่าย pallet รถขนถ่ายลำเลียงพร้อมระบบเซ็นเซอร์ ที่ทำงานร่วมกับโปรแกรม equipment embedded software และภายในงานจะมีการจัด Live show ด้วย เพื่อเป็นการสาธิตระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะ SMART Logistic ครั้งแรกในประเทศไทย โดยแสดงรูปแบบการทำงานที่มีความเชื่อมโยงกันระหว่างระบบ โลจิสติกส์อัตโนมัติกับหุ่นยนต์อัจฉริยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมาคมฯ มั่นใจว่าผู้ประกอบการที่มาเยี่ยมชมงานครั้งนี้ นอกจากจะได้ชมนวัตกรรมการผลิตครบถ้วนและทันสมัยที่สุดแล้ว ยังได้เห็นศักยภาพของบริษัทไทยในด้านนี้และเรียนรู้ถึงการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ใช้ในการผลิตในหลากหลายรูปแบบ เพื่อนำไปต่อยอดในการพัฒนาสายการผลิตให้เกิดความรวดเร็ว แม่นยำ และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย”
งานซับคอนไทยแลนด์ 2018 (SUBCON Thailand 2018) งานแสดงสินค้าเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและการจับคู่ธุรกิจชั้นนำของอาเซียน ซึ่งจะจัดร่วมกับ งานอินเตอร์แมค(INTERMACH 2018) จะจัดขึ้นระหว่างวันพุธที่ 16 ถึง เสาร์ที่ 19 พฤษภาคม 2561 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา