คปภ. มอบของขวัญปีใหม่ด้วย“ประกันภัย 7 บาทพลัส”

891

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ของทุกๆปี มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยว รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองรื่นเริงต่างๆควบคู่ไปกับการใช้รถใช้ถนนเพื่อการสัญจร จึงอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุที่สูงกว่าช่วงเวลาปกติเพื่อเป็นการส่งท้ายปี 2562 ต้อนรับปี 2563 โดยเฉพาะช่วงเข้มข้น 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2563 สำนักงาน คปภ. จึงได้เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน ด้านการประกันภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเป็นระบบและครบวงจร โดยสำนักงาน คปภ. ได้ผนึกกำลังกับภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมประกันภัย จัด“โครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ประจำปี 2563 พร้อมเปิดตัวกรมธรรม์ประกันภัย อุ่นใจปีใหม่พลัส (ประกันภัยกลุ่ม ไมโครอินชัวรันส์)

สำหรับกิจกรรมที่เป็นไฮไลฟ์ของการจัดงานในครั้งนี้มีกิจกรรมมอบหมวกนิรภัยให้แก่เด็กนักเรียนและผู้ประกอบอาชีพจักรยานยนต์รับจ้างในเขตกรุงเทพฯรวมทั้งการให้ความรู้ด้านประกันภัยผ่านบูธนิทรรศการด้านความปลอดภัยทางถนนของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย การให้ความรู้ด้านประกันภัยผ่านสารคดีสั้นและคลิปวิดีโอสั้น ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งมีการให้บริการตรวจเช็ค เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและหลอดไฟรถจักรยานยนต์ฟรี

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำนักงาน คปภ. ได้เปิดศูนย์บริการสายด่วน คปภ. 1186 อย่างครบวงจร เพื่อให้บริการ Hotline 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วันอันตราย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งให้มีการรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ในรูปแบบ Platform ทั้งในส่วนของบริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต และ สำนักงาน คปภ. ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อกำกับและติดตามการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ และผู้เสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ. ภาค ทุกภาค และสำนักงาน คปภ. จังหวัดทุกจังหวัด เข้าร่วมบูรณาการกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัย และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานศูนย์ประจำจังหวัด ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม ฯลฯ เพื่อรณรงค์การขับขี่ปลอดภัยทางถนนในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ รวมทั้งดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการด้านประกันภัยเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงที รวดเร็ว ถูกต้อง และเป็นธรรม

ทั้งนี้คปภ. ได้ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัยและพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการสินค้าอุปโภค บริโภค บริการ และกิจการโทรคมนาคมกว่า 20 บริษัท ร่วมกันส่งมอบความสุขและสร้างความอบอุ่นใจในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการมอบของขวัญพิเศษ 3 ชิ้นใหญ่ และถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ส่งท้ายปี 2562 ชิ้นแรกเป็นกรมธรรม์ประกันภัยที่มีราคาถูกที่สุดในโลก แต่ให้ความคุ้มครองแบบคุณภาพคับแก้ว คือ กรมธรรม์ประกันภัยอุ่นใจปีใหม่พลัส (ประกันภัยกลุ่ม ไมโครอินชัวรันส์) หรือ กรมธรรม์ประกันภัย 7 บาทพลัส โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียงแค่ 7 บาท จะได้รับความคุ้มครอง 4 กรณี คือ กรณีแรก การเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเนื่องจากอุบัติเหตุไม่รวมการถูกฆาตกรรม ลอบทำร้ายร่างกายและ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาท กรณีที่สอง การเสียชีวิต สูญเสียมือ เท้า สูญเสียสายตา หรือ ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรม ลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุ ขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จะได้รับความคุ้มครอง 50,000 บาท กรณีที่สาม ค่าใช้จ่ายในการจัดการงานศพกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย (ยกเว้นกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยภายใน 15 วันแรก  นับจากวันเริ่มต้นระยะเวลาประกันภัย) จะได้รับความคุ้มครอง 5,000 บาท และกรณีที่ 4 ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ วันละ 150 บาท (สูงสุดไม่เกิน 30 วัน) ทั้งนี้ เนื่องจากประกันภัย 7 บาทพลัส เป็นกรมธรรม์แบบกลุ่ม จึงกำหนดเงื่อนไขผู้ที่สามารถซื้อได้ คือ ผู้ประกอบการซื้อเพื่อมอบความคุ้มครองแก่พนักงาน ลูกจ้าง ลูกค้า หรือถ้าเป็นบุคคลทั่วไปสามารถรวมตัวเป็นกลุ่มก็สามารถซื้อได้เช่นกัน สำหรับบุคคลทั่วไปรายเดียวสามารถซื้อได้ที่ธนาคารออมสิน และ Shopee ออนไลน์ โดยเริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 ผู้มีสิทธิเอาประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 20-70 ปีบริบูรณ์ สำหรับระยะเวลาการคุ้มครองจำนวน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำประกันภัย

ชิ้นที่สองเป็นการปรับปรุงและเพิ่มความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ โดยมีประเด็นสำคัญ 2 ประเด็น คือ ประเด็นแรกการปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจทั้งระบบ รวมถึงคู่มือตีความกรมธรรม์ ให้มีความทันสมัยและลดข้อขัดแย้ง ซึ่งจะมีผลบังคับ 1 มกราคม 2563 ประเด็นที่สองคือการเพิ่มความคุ้มครอง โดยเฉพาะกรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรวมทั้งสองประเภทเดิมไม่ต่ำกว่า 6 แสนบาท เป็นรวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท กล่าวคือ  การประกันภัยภาคบังคับกรณีเสียชีวิต ทุพพลภาพ จากเดิม 3 แสน เพิ่มเป็น 5 แสนบาท สูญเสียอวัยวะจากเดิม 2 – 3 แสนบาท เป็น 2 – 5 แสนบาท และกรณีที่ต้องใช้กระโหลกศรีษะเทียมให้ถือว่าเป็นการสูญเสียอวัยวะอื่นใดให้ได้รับความคุ้มครองเป็นค่าเสียหายเบื้องต้นจำนวน 35,000 บาท และมีความคุ้มครองสูงสุดที่ 250,000 บาท  ส่วนการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจค่าสินไหมทดแทนขั้นต่ำเป็นจากเดิม 3 แสน เพิ่มเป็น 5 แสนบาท โดยถ้ามีจำนวนเอาประกันภัยระหว่าง 5 แสน – 2 ล้านบาท หากบุคคลภายนอกเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร กรมธรรม์กำหนดให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงินที่แน่นอนตามจำนวนเงินที่เอาประกันภัย สำหรับในส่วนที่เกิน 2 ล้านบาท กำหนดให้พิจารณาจ่ายตามฐานานุรูป ซึ่งจะมีผลบังคับวันที่ 1 เมษายน 2563 โดยจะมีการลงนามในคำสั่งนายทะเบียนก่อนสิ้นปี 2562 และชิ้นที่สามเป็นประกาศแบบมาตรฐานประกันสุขภาพใหม่ ที่ช่วยเพิ่มความคุ้มครองและกำกับเบี้ยประกันภัยให้ถูกลงและได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น