กองทุนประกันชีวิตเผยผู้มีสิทธิรับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความยังไม่ไปรับเงินกว่า 1 ล้านราย แจ้งตรวจสอบสิทธิที่เว็บไซต์กองทุนประกันชีวิต หากพบข้อมูลว่าตนมีสิทธิในเงินกรมธรรม์ดังกล่าว สามารถยื่นคำขอรับเงินจากกองทุนฯได้ทันที
ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019(COVID-19) ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งทางสุขภาพและเศรษฐกิจ ซึ่งหากประชาชนได้รับรู้ว่าตนเองมีสิทธิในเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ก็สามารถขอรับเงินคืนได้จากกองทุนประกันชีวิต อันจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนและนโยบายคณะกรรมการบริหารกองทุน เพื่อพัฒนาธุรกิจประกันชีวิตให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ
โดย “เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ” เป็นเงินที่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ หรือทายาทของผู้เอาประกันมีสิทธิได้รับตามกรมธรรม์ แต่มิได้มีการเรียกร้องจากบริษัทจนพ้นอายุความ ซึ่งอายุความดังกล่าวคือ 10 ปี นับแต่วันที่ผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ หรือทายาทของผู้เอาประกันมีสิทธิได้รับเงิน โดยเมื่อล่วงพ้นระยะเวลา 10 ปี กฎหมายกำหนดให้บริษัทประกันชีวิต ต้องนำส่งเงินเข้ากองทุนประกันชีวิต (มาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535) และผู้เอาประกัน หรือผู้รับประโยชน์ หรือทายาท สามารถขอรับเงินดังกล่าวคืนจากกองทุนได้อีกภายในเวลา 10 ปี
ปัจจุบันมีเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความ ที่บริษัทประกันชีวิตจำนวน 22 บริษัท นำส่งเข้ามายังกองทุนประกันชีวิต จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2563 ดังนี้
ข้อมูลเงินกรมธรรม์ | จำนวนเงิน(บาท) | จำนวนราย |
เงินกรมธรรม์นำส่งทั้งหมด | 1,397,716,563.- | 1,003,750 |
เงินกรมธรรม์จ่ายคืน | 23,855,973.- | 3,268 |
เงินกรมธรรม์คงเหลือสิ้นปี2563 | 1,373,860,590.- | 1,000,482 |
โดยกองทุนประกันชีวิต ได้จ่ายเงินคืนให้แก่ผู้มีสิทธิ คิดเป็นร้อยละ 0.31 ของจำนวนผู้ที่มีสิทธิทั้งหมด และร้อยละ 1.65 ของจำนวนเงินทั้งหมด ตามลำดับ ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ไม่ถูกรับคืนไป เนื่องจากผู้เอาประกันชีวิตไม่รู้สิทธิประโยชน์ที่แท้จริงตลอดจนเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งสามารถสรุปสาเหตุหลักๆได้ 4 ประการดังนี้
- บริษัทประกันไม่สามารถติดต่อผู้เอาประกันชีวิตบางรายได้ เนื่องจากสาเหตุ เช่น ย้ายที่อยู่แล้วมิได้แจ้งให้บริษัทประกันทราบ
- ผู้เอาประกันชีวิตบางราย เสียชีวิตโดยมิเคยแจ้งให้ทายาท หรือผู้รับประโยชน์ทราบว่าตนได้ทำประกันชีวิตไว้ ทำให้ผู้รับประโยชน์หรือทายาทของผู้เอาประกัน มิได้เรียกร้องเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์
- ผู้เอาประกันชีวิตบางรายไม่ส่งเบี้ยประกันต่อทำให้กรมธรรม์ขาดความคุ้มครอง แต่ไม่ทราบว่ากรมธรรม์มีมูลค่าเงินสดเหลืออยู่
- ผู้เอาประกัน ได้รับเช็คจากบริษัทแล้ว แต่มิได้นำเช็คไปขึ้นเงินจนลืม
ด้วยเหตุนี้ กองทุนประกันชีวิตจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆทั้งออนไลน์และออฟไลน์เพื่อให้ผู้มีสิทธิใน “เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ” รับทราบ และตรวจสอบสิทธิของตนเอง ผ่านเว็บไซต์กองทุนประกันชีวิต www.lifeif.or.th รวมถึงได้บูรณาการกับกรมการปกครอง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการตรวจสอบที่อยู่ปัจจุบันของผู้เอาประกันชีวิต ตามข้อมูลผู้มีสิทธิในเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความของกองทุน เพื่อใช้แจ้งสิทธิให้ผู้เอาประกันชีวิตรับทราบอีกด้วย
ผลการดำเนินงานการจ่ายเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความคืนผู้เอาประกันชีวิต
ปี พ.ศ.ที่จ่าย | จำนวนเงิน(บาท) | จำนวนราย | เพิ่ม/ลด % |
2561 | 2,164,246.37 | 290 | – |
2562 | 4,621,406.91 | 661 | 127.93 % |
2563 | 8,408,067.92 | 1,297 | 347.24 % |
จากผลการดำเนินงานตามหาเจ้าของเงิน เพื่อจ่ายคืนเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ ปี 2562 เพิ่มขึ้นคิดเป็น 127.93 % และ ปี 2563 เพิ่มขึ้นคิดเป็น 347.24 % โดยคิดจากปีฐาน 2561
กรณีตัวอย่างความพึงพอใจของผู้ได้รับ “เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ” ที่มีต่อกองทุนประกันชีวิตและธุรกิจประกันชีวิตคือ นายสุระ แสนคำ หรือ เขาทราย แกเล็คซี่ เป็นผู้ที่ได้ทำประกันชีวิตไว้ จำนวน 2 กรมธรรม์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นนักมวยสากลอาชีพระดับแชมป์โลก มีเพื่อนเป็นตัวแทนประกันชีวิต จึงได้ทำประกันชีวิตไว้ เมื่อทำไประยะหนึ่งเพื่อนก็ไม่มาเก็บเงินค่าประกัน จึงไม่ได้จ่ายค่าเบี้ยประกันตั้งแต่นั้นมา และไม่ทราบว่าประกันที่ทำไว้มีเงินหรือสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง จนเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2563 ได้รับหนังสือจากกองทุนประกันชีวิต แจ้งว่ามีสิทธิรับเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความ เป็นเงินจำนวน 180,240 บาท จึงได้ยื่นคำขอและกองทุนได้โอนเงินผ่านธนาคารเข้าบัญชีให้ครบถ้วน ประทับใจต่อการให้บริการจากกองทุนมาก โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้เพื่อการศึกษาบุตร และเห็นว่าการทำประกันชีวิตมีความสำคัญและจำเป็นกับทุกคน จะนำความรู้สึกดีเหล่านี้ไปบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงได้รับรู้คุณประโยชน์จากการทำประกันชีวิต รวมถึงการตรวจสิทธิ์เงินล่วงพ้นอายุความจากกองทุนประกันชีวิตด้วย
สำหรับแนวทางดำเนินงานเกี่ยวกับเงินล่วงพ้นอายุความของกองทุนประกันชีวิต ในปี 2564 นายจรัญ สอนสวัสดิ์ ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต กล่าวว่า จะเร่งเพิ่มการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันชีวิต และบทบาทหน้าที่กองทุน เพื่อสื่อสารให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลสิทธิประโยชน์ ผ่านทุกช่องทางได้แก่ สื่อออนไลน์: Website, YouTube, Facebook, Line Official Account สื่อวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์, ดำเนินการพัฒนาฐานข้อมูลและโปรแกรมเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิของตนเอง ผ่านเว็บไซต์กองทุนประกันชีวิต www.lifeif.or.th, เชื่อมโยงข้อมูลการตรวจสอบที่อยู่ปัจจุบันของผู้เอาประกันชีวิต ตามข้อมูลผู้มีสิทธิในเงินกรมธรรม์ที่ล่วงพ้นอายุความของกองทุนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้แจ้งสิทธิให้ผู้เอาประกันชีวิตรับทราบ รวมถึงพัฒนาระบบการยื่นคำขอรับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความผ่านออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางการบริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยเป้าหมายการดำเนินงานเกี่ยวกับเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ปี 2564 คือ
1 การอนุมัติเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความคืนผู้เอาประกันชีวิตเพิ่มขึ้นจากปี2563 ร้อยละ 100
2 ธุรกิจประกันชีวิต ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน ส่งผลให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ
“กองทุนประกันชีวิต จึงขอประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสิทธิของตนผ่านเว็บไซต์กองทุนประกันชีวิตและหากพบข้อมูลว่าตนมีสิทธิในเงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ ก็สามารถที่จะยื่นคำขอรับเงินจากกองทุนฯเพื่อนำไปใช้จ่ายบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVIS-19)ต่อไป” ผู้จัดการกองทุนประกันชีวิต กล่าว
ช่องทางการเข้าถึงข้อมูลเพื่อ ตรวจสอบสิทธิ์เงินกรมธรรม์ล่วงพ้นอายุความ สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่ www.lifeif.or.th หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Facebook กองทุนประกันชีวิต Fanpage หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-1333 ต่อ 51