การเคหะแห่งชาตินำ 4 โปรเจกต์ร่วมนิทรรศการ TCAC

498

การเคหะแห่งชาตินำ 4 โปรเจกต์ ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมแสดงนิทรรศการในการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) ระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม 2565

                กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยการเคหะแห่งชาติ นำผลงาน 4 โปรเจกต์ ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมแสดงนิทรรศการในการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) ระหว่างวันที่ 5-6 สิงหาคม 2565 โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน และ นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ มอบหมายให้ นางชฎารัตน์ ไชยเสน ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจัดขึ้น ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

               นางชฎารัตน์ ไชยเสน ผู้ช่วยผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงได้มุ่งมั่นดำเนินการศึกษา วิจัย และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง จึงได้นำโครงการดังกล่าวเข้าร่วมจัดนิทรรศการในการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องตลอดจนบูรณาการและขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากระดับนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งประเทศไทยได้ร่วมเป็นรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและได้ให้สัตยาบันรับรองพิธีสารเกียวโตและความตกลงปารีส ซึ่งการดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จจะต้องได้รับความร่วมมือและสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายและแผนที่วางไว้

                 สำหรับนิทรรศการที่การเคหะแห่งชาตินำมาจัดแสดงในการประชุมภาคีการขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของไทย (Thailand Climate Action Conference) มีจำนวน 4 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงานสำหรับบ้านที่อยู่อาศัย หรือ “บ้านเบอร์ 5” เป็นโครงการที่ดำเนินงานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปัจจุบันมีโครงการที่ผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงาน จำนวน 16 โครงการ รวม 3,963 หน่วย ส่งผลให้เกิดการประหยัดพลังงานไฟฟ้า 4.82 ล้านหน่วย/ปี ลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้า 17.35 ล้านบาท/ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2,298 ตันคาร์บอนไดออกไซด์/ปี รวมถึงประชาชนได้อยู่อาศัยในบ้านที่ประหยัดพลังงานทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงจากเดิมประมาณ 40-60 % หรือลดลงเฉลี่ยประมาณ 4,500 บาท/ปี/หน่วย 2) โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า (Transit-Oriented Development: TOD)เพื่อสนับสนุนแนวทางการพัฒนาเมืองในการพัฒนาพื้นที่บริเวณจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจรของระบบขนส่งสาธารณะให้มีการใช้ประโยชน์อย่างผสมผสาน และเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ให้ความสำคัญกับการเดินเท้า การใช้รถจักรยาน และการใช้ระบบขนส่งสาธารณะเป็นหลักในการเดินทาง 3) โครงการส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย (Accelerating construction of energy efficient green housing units in Thailand) โดยร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ยื่นข้อเสนอโครงการฯ ขอรับทุนสนับสนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility: GEF) ครั้งที่ 7 ผ่านโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) เพื่อพัฒนาและส่งเสริมที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเมื่อวันที่  9  มิถุนายน 2564 การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติโครงการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เป็นเงินจำนวน 3,141,142 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 4) โครงการชุมชนอัจฉริยะและน่าอยู่อย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น (Smart and Sustainable Community for Better Well-being : SSC) ที่การเคหะแห่งชาติร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) นำองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาร่วมสนับสนุนการดำเนินโครงการ SSC ในมิติที่แตกต่างกันจนสามารถเดินหน้าโครงการนำร่องที่โครงการบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง (นิติ 1) ได้อย่างเป็นรูปธรรม

             “การเคหะแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลักด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายตาม นโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยที่ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม นำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งทางร่างและจิตใจอย่างยั่งยืน”